กทม.1 ก.ค.- กองปราบจับหญิงอายุ 65 อ้างตัวเป็นยี่ปั๊วโควตาลอตเตอรี่ หลอกขาย”สมรักษ์”นักมวยชื่อดัง เสียหายกว่า 11 ล้านบาท
ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม(กก.2 บก.ป.)ร่วมกันจับกุมนางปารมี (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้และธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น”บริเวณริมถนนแฮปปี้แลนด์สาย 2 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พฤติการณ์เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2564 นายรณณรงค์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อม น.ต.สมรักษ์ หรือบาส (ผู้เสียหาย) นักมวยชื่อดังเจ้าของวลีเด็ด “ไม่ได้โม้” ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีนางปารมี หรือหญิง (ผู้ต้องหา) ซึ่งได้อ้างตัวเป็นยี่ปั๊วหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำให้ น.ต.สมรักษ์ สูญเงินไปกว่า 11.75 ล้านบาท
น.ต.สมรักษ์ (ผู้เสียหาย) ให้การว่า “ก่อนหน้านี้มีคนสนิทแนะนำว่า หากอยากลงทุนลอตเตอรี่ให้ติดต่อกับนางปารมี เนื่องจากเป็นยี่ปั๊วมีโควตาลอตเตอรี่จำนวนมาก และนางปารมี สามารถซื้อลอตเตอรี่ได้ราคาต่ำกว่ายี่ปั๊วหน้าสำนักงานสลากกินแบ่ง น.ต.สมรักษ์ จึงได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนคนสนิท รวมทั้งคนในวงการกีฬา มาร่วมลงทุน โดยได้สั่งซื้อลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งในการสั่งซื้อดังกล่าว นางปารมี ได้ส่งลอตเตอรี่ให้ครบตามจำนวน จึงทำให้กลุ่มที่ร่วมลงทุนมั่นใจว่ามีการซื้อขายกันจริง ไม่มีการโกงแต่อย่างใด หลังจากนั้นจึงได้มีการชักชวนผู้ที่สนใจมาร่วมลงทุนมากขึ้น และผู้ร่วมลงทุนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าการที่ น.ต.สมรักษ์ฯ เป็นคนกลางสั่งซื้อ คงไม่มีใครกล้าโกง
ต่อมาเมื่อ น.ต.สมรักษ์ สั่งซื้อลอตเตอรี่มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท กับนางปารมี ในครั้งนี้ น.ต.สมรักษ์ กลับไม่ได้รับลอตเตอรี่แต่อย่างใด เมื่อพยายามติดต่อขอเงินคืน นางปารมี ก็ได้พยายามบ่ายเบี่ยง อ้างว่านายของนางปารมี กำลังประสานและดำเนินการคืนเงินให้ หลังจากนั้นนางปารมี ก็ได้ทยอยชดใช้เงินให้กับตนจนเหลือยอดค้างอีกจำนวน 11.75 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน นางปารมี ก็ไม่มีการชดใช้ยอดเงินที่เหลืออยู่ ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษาทนาย และตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด”
จนกระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก. 2 บก.ป. ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ลงพื้นที่สืบสวนกรณีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าอาจเป็นเครือข่ายเดียวกันกับการโกงลอตเตอรี่ใน จ.ตราด แต่จากการสืบสวนในเบื้องต้น กรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเรื่อยมา จนทราบว่าผู้ต้องหาอยู่บริเวณพื้นที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปี กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงได้ทำการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นางปารมี เคยก่อเหตุมาแล้วหลายคดีหลายครั้ง และหลายท้องที่ ซึ่งพบว่ามีหมายจับจำนวน 9 หมายจับ ขาดอายุความแล้ว 5 หมายจับ คงเหลือหมายจับที่ยังต้องการตัวอีก 4 หมายจับ ซึ่งคดีส่วนใหญ่เป็นคดีเช็ค .-สำนักข่าวไทย