“อนุทิน” เปิดสัมมนาวิชาการความปลอดภัยทางถนน ย้ำความสำคัญ “Situation awareness”

กทม 20 พ.ย. – “อนุทิน” เปิดสัมมนาวิชาการระดับชาติ ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 16 ย้ำความสำคัญ “Situation awareness” ตื่นตัว ตระหนัก รับผิดชอบ ชี้ต้องทำอุบัติเหตุให้เป็น 0 เพราะหนึ่งชีวิตก็เป็นเกรด F แล้ว


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้เป็นประธานเปิดสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 16 (16th Thailand Road Safety Seminar) ภายใต้แนวคิด สานพลังเข้มข้น สร้างกลไกเข้มแข็ง เพื่อถนไทยปลอดภัย : Road Safety Stronger Together” ณ ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

นายอนุทิน กล่าวในปาฐกถาเปิดการสัมมนาว่า ไม่ว่าจะได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งใด ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในรัฐบาลที่แล้ว และได้มีโอกาสมากำกับดูแลส่วนงานกระทรวงคมนาคมด้วย และในวันนี้ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยคำนึงถึง 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.การสร้างจิตสำนึกในความปลอดภัยและความเข้าใจในกฎจราจร 2.การบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด 3.การพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานของถนน เส้นทางสัญจร และสัญญาณจราจร 4.การบำรุงรักษาสภาพของรถยนต์ให้มีความปลอดภัย อยู่ในสภาพดีเสมอ ซึ่งในประเทศไทยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่เราร่วมมือกันดูแลเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขับเคลื่อนและดำเนินการผ่านคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ และคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทุกระดับร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางถนน และขณะเดียวกันเรายังร่วมกับรัฐบาลทั่วโลก ร่วมประกาศทศวรรษที่ 2 แห่งความปลอดภัยทางถนน (The second Decade of Action for Road Safety 2021-2030) มีห้วงระยะเวลา 10 ปี ซึ่งวันนี้เราผ่านไป 4 ปีแล้ว ตามมติสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน อย่างน้อยร้อยละ 50 โดยประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายในการลดอัตราผู้เสียชีวิตให้เหลือ 12 คนต่อประชากร 100,000 คน ภายในปี 2570 นี้ ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางท้องถนนให้กับนานาประเทศ แต่ประเทศไทยก็กำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ รวมถึงการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด อันเป็นสาเหตุของการเกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร แม้กระทั่งในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเรามีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 59% และในวัยทำงาน 28% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ ซึ่ง 1 ใน 5 จากค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนอยู่ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ส่งผลต่อตัวเลขความสูญเสียทางโอกาสและเศรษฐกิจและชีวิตของคนในชาติเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่เราทำมาโดยตลอดนี้ยังไม่เพียงพอและยังไม่บรรลุเป้าหมาย ยังมีภารกิจที่เราจะต้องร่วมมือทำกันอีกมาก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด เพื่อรักษาชีวิตของพี่น้องประชาชนของเรา

นายอนุทิน กล่าวว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนต้องอาศัยการบูรณาการรณรงค์ร่วมมือของทุกภาคส่วน ต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ เพราะมูลเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนั้นก็เปลี่ยน มีสภาพการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมที่เร่งรีบ เกิดอาชีพใหม่ๆ ที่ต้องใช้ยวดยานพาหนะเป็นตัวขับเคลื่อน เหมือนตอนนี้ธุรกิจใหม่ๆ เช่น LINE Man Grab ส่งอาหาร ต้องส่งให้เร็ว ต้องส่งให้ด่วน ต้องหิ้วของไปให้มากที่สุดบนหลังรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นเทรนด์ใหม่ ซึ่งหากย้อนไป 10-20 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีมากขนาดนี้ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงต่อการสูญเสียเพิ่มมากขึ้น และในทุกวันนี้อุปกรณ์การช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อลดภาระของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะก็เพิ่มมากขึ้น มีระบบ Automatic ต่างๆ จนบางที “เราใช้ Situation awareness หรือการใช้สัญชาตญาณเพื่อให้เกิดความปลอดภัยลดน้อยลง” เดี๋ยวนี้บางทีไปไหนเราใช้หูฟัง เลี้ยวซ้ายภายใน 300 เมตร เลี้ยวขวาภายใน 20 เมตร มันทำให้เราไม่ได้มีสมาธิในการดูสถานการณ์รอบตัว ซึ่งคำนี้ตนเรียนรู้มาจากการเป็นนักบินว่า ถึงแม้เราจะบังคับอากาศยานของตัวเองในอากาศก็ตามที ถึงแม้ว่าอากาศจะไม่มีเครื่องบินข้างๆ ไม่มีไฟแดง ไม่มีสี่แยก แต่คุณต้องมี Situation awareness คือ ต้องคิดตลอดว่าถ้าตอนนี้ วันนี้เครื่องมันดับ จะทำอย่างไร ต้องทำความคุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศที่บินผ่านไป ซึ่งที่จริงแล้ว Situational awareness มันไม่ได้ใช้แค่อยู่บนอากาศ แต่มันต้องอยู่ทุกที่ เดินเข้ามาในห้องประชุมนี้ก็ต้องระวังอย่าไปเตะปลั๊กกลางห้อง ดังนั้น Situation awareness หรือความระมัดระวังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับเรา ในสภาพรอบตัวเรา ควรจะต้องมีไว้ตลอดเวลา

นายอนุทิน กล่าวว่า สัมมนาวิชาการฯ วันนี้เรามีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณมากมายให้กับทุกๆ ท่าน ก็ต้องถือว่าสิ่งที่เราได้มา บางทีมันก็แลกกับชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เราจึงต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อที่ทำให้โลกที่เราได้มาได้มาจากการทำงานหนัก การทุ่มเทของเรามากกว่าการที่ต้องมีต้นทุนที่หนักหนาสาหัสมาก ก็คือ ชีวิตของผู้สัญจรไปมาหรือชีวิตของประชาชนที่ต้องแลกกับมันมา


หลายคนทราบดีว่าเมื่อมีอุบัติเหตุทางถนนไม่ว่าสาเหตุใดก็ตามมันนำมาซึ่งความเศร้าโศก สลด หดหู่ใจ เสียกำลังใจ ดังนั้น ตราบใดที่เรายังมีภารกิจหน้าที่ที่ต้องดูแลงานด้านนี้อยู่ ตนขอให้ทุกท่านอย่าได้เสียกำลังใจ และต้องสร้างกลไกต่างๆ เพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้ได้อุบัติขึ้นซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ดังกรณีไฟไหม้รถบัสของน้องๆ นักเรียน ไม่มีใครสามารถทนเห็นสภาพจริงได้ ไม่ว่าเราจะเข้มแข็งขนาดไหน ถ้าไปเจอสภาพจริงในวันนั้น ต้องปาดน้ำตา เพราะมันไม่ไหวจริงๆ ทั้งสลดกับคนที่สูญเสียชีวิต ทั้งสลดกับผู้บาดเจ็บ สลดกับคนที่เหลือ ญาติ แล้วก็นึกถึงอนาคตของเขา แล้วที่น่าสลดที่สุดคือ มันป้องกันได้ ทำไมปล่อยให้เหตุมันเกิดขึ้น ดังนั้น เราต้องใส่ใจตลอดเวลาว่า มันไม่มีแม้กระทั่ง 1% ที่เราจะยอมให้เกิดความเสี่ยง ถ้าเราคิดแบบนี้ได้เราก็จะไม่ยอม ไม่มีการเพิ่มถังแก๊สแม้กระทั่งครึ่งถังหรือ 1 ถัง กฎหมายให้ใส่ 6 ถังก็ต้องใส่ 6 ถัง ถ้าใส่เกินกว่านั้นต้องดำเนินคดีด้วยความเฉียบขาด ซึ่งมันก็เป็นข้อเสนอของทุกครั้งที่มีการประชุม เราต้องอย่าให้มันเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกครั้ง แล้วจึงค่อยมาใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ มันสายเกินไป ขณะเดียวกันผู้ขับขี่ผู้ใช้ยวดยานบนถนน คนขับก็ต้องคิดว่า เราไม่ได้รับผิดชอบชีวิตเรา เรารับผิดชอบชีวิตทุกคนที่อยู่หลังพวงมาลัยเรา

ต้องมีความตื่นตัว ต้องมีสำนึกว่าเรากำลังมีคนอยู่ในภาระความรับผิดชอบของเรา ถ้าเราทุกคนช่วยกันร่วมมืออุบัติเหตุมันก็จะลดน้อยลง เขาให้ขับไม่เกิน 120 ก็อย่าเกิน 120 แขวนพระอะไรก็ช่วยไม่ได้ เพราะหลวงพ่อคูณยังเคยบอกว่ากระโดดลงตั้งแต่ขับเกิน 120 แล้ว ดังที่มีคนเคยไปโวยวายท่านว่าแขวนหลวงพ่อแล้วทำไมรถยังคว่ำ ยังบาดเจ็บสาหัส หลวงพ่อเลยถามว่าแล้วขับไปเท่าไร คนนั้นตอบขับแค่ 160 170 หลวงพ่อจึงบอกว่า กูกระโดดลงตั้งแต่ 120 แล้ว ซึ่งมันเป็นข้อสั่งสอนที่ง่ายมากที่เราเข้าใจ เพราะถ้าเราขับเกิน Limit เมื่อไร เข็มความเสี่ยงที่เกิดขึ้นมันก็จะเคลื่อน ถ้าเราอยู่ในวงการนี้อุบัติเหตุมันก็จะเกิดขึ้น เรียกว่า Chain of Event จะเริ่มจาก 1 2 3 4 เขาเรียกว่า ห่วงโซ่สถานการณ์ เราต้องอย่าให้มันนับ 1 เด็ดขาด ไม่งั้นมันก็จะไป 2 3 4 5 และไปถึงจุดที่รับไม่ได้และจะเกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ต้องมีความตื่นตัว มีความตระหนัก ความรับผิดชอบ และความพร้อมตลอดเวลา แล้วมันก็จะไม่มีปัญหา “เราต้องทำให้เป็น 0 เพราะหนึ่งชีวิตก็เป็นเกรด F แล้ว เป็นเป้าหมายที่เราทำได้”

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้ขอบคุณและชื่นชมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ และคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลร่วมกับศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย หน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม องค์กร มูลนิธิ และเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน ที่ได้ร่วมกันจัดงานครั้งนี้ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และแสดงความยินดีกับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลที่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัล Prime Minister Road Safety Award

นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้รับมอบข้อเสนอความปลอดภัยในการเดินทางของเด็กและเยาวชนจากกลุ่มเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยและเครือข่ายเยาวชน Road Safety Idol เขตสุขภาพที่ 7 และมอบรางวัล Prime Minister Road Safety Award จำนวน 6 ประเภท คือ 1) หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ 1.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2.กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค 3.สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร 4.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดศรีสะเกษ 5.ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอกมลาไสย 6.องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์

2) หน่วยงานสถานศึกษา ได้แก่ 1.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช 2.สถาบันจัดการปัญญาภิวัฒน์ จ.นนทบุรี 3.โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ จ.นครราชสีมา 4.โรงเรียนเทศบาล 2 (คลองจิหลาด) จ.กระบี่

3) หน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ 1.เทศบาลตำบลโพนสูง จ.ร้อยเอ็ด 2.เทศบาลตำบลบางจะเกร็ง จ.สมุทรสงคราม 3.ศูนย์ปฏิบัติการทางถนน อบต.นาเคียน จ.นครศรีธรรมราช 4.ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน อบต.กุแหระ จ.นครศรีธรรมราช 5.ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน อบต.กุดเสลา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 6.อบต.ดอนคา จ.สุพรรณบุรี

4) ประเภทหน่วยงานภาคเอกชน 1.บจก.อีสเทิร์นซีบอร์ดอินดัสตรี้เอสเตทระยอง 2.บจก.อินเตอร์เนชั่นแนลเอ็นแอนด์เอช (ประเทศไทย) 3.บจก.ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ 4.บมจ.ธนชาตประกันภัย 5.บจก.อาร์อาร์ที ออร์โตโมทีฟ (ประเทศไทย) 6.บจก.โตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) 7.บจก.ไทยฮอนด้า 8.บจก.บอส ออร์โตโมทีฟ (ประเทศไทย)

5) ประเภทบุคคล 25 ราย อาทิ นายไกรสร กองฉลาด นายวันชัย คงเกษมจ นายสุวัฒน์ เข็มเพชร นายวิทยา จันทน์เสนะ นายบรรจง โพธิวงศ์ นางธัญวรรณ ศรีรัตนโชติ นพ.อำนวย กาจีนา นพ.ปรีชา เปรมปรี รศ.ดร.วีรพล ทองมา

ทั้งนี้ งานสัมมนาวิชาการฯ มีผู้มีเกียรติและคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ร่วมงาน อาทิ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ลุยเอง นำทีมบุกจับบ่อนดอนเมืองในตำนาน

ดอนเมือง 28 ส.ค. – “ภูมิธรรม” นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “สิงห์ปราบพยศ” ทลายบ่อนเปิดซ้ำซากย่านดอนเมือง รวบ 200 นักพนัน เงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน ย้ำ “ขบวนการตาสับปะรดของประชาชนคือเบาะแสสำคัญ” ร่วมกันสร้างสังคมปลอดอบายมุข ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดปฏิบัติการสิงห์ปราบพยศ ปิดล้อมทลายบ่อนดอนเมืองในตำนาน เป็นจุดที่โดนทั้งตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง บุกเข้าจับกุมนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้กรมการปกครองนำกำลังเข้าพื้นที่ตามช่องทางเข้า-ออกทุกทาง พบมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ จึงใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กเข้าตัดประตูเป็นช่องเพื่อให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน ภายในพบนักพนันกว่า 200 คน โดยใช้พื้นที่ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และพื้นที่อาคารที่อยู่ใกล้เคียง เป็นห้องพนันแบบครบวงจร 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมีการตั้งร้านอาหารและน้ำดื่ม เหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆ ในพื้นที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาตรวจสอบในจุดดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า บ่นพนันดังกล่าวพบมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 5-10 ล้านบาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนแล้วเดือนละ 300-400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เล่นตั้งแต่ […]

อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย