ทำเนียบรัฐบาล 29 มิ.ย.-ศบค.เผยติดเชื้อใหม่ 4,662 ราย เสียชีวิต 36 ราย กรุงเทพฯ ครองอันดับติดเชื้อสูงสุด เฝ้าระวัง 106 คลัสเตอร์ ขณะที่ต่างจังหวัดยังพบคลัสเตอร์ใหม่ ติดเชื้อจากคลัสเตอร์เดิม
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน ประเทศไทย วันนี้(29 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 4,662 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 4,624 ราย แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 3,683 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 941 ราย จากเรือนจำ / ที่ต้องขัง 10 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 28 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 225,652 ราย มีผู้เสียชีวิต 36 ราย ส่งผลยอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,876 ราย รักษาหาย 2,793 ราย รวมยอดรักษาหาย 177,638 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 47,481 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.20,732 ราย รพ.สนาม 26,749 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,846 ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 527 ราย
โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 36 ราย เป็นเพศชาย 20 ราย เพศหญิง 16 ราย อายุ 41-93 ปี อยู่ในพื้นที่กทม.มากที่สุด 19 ราย นนทบุรี 7 ราย นครปฐม เชียงราย จังหวัดละ 2 ราย สมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี สงขลา ปราจีนบุรี สมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด อ้วน มะเร็ง หลอดเลือดสมอง โรคเลือด ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว และคนอื่น ๆ มากเช่นเดิม อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน อาชีพเสี่ยง
“มีรายงานจากกรมควบคุมโรคว่า ระยะเวลาตั้งแต่ผู้ป่วยทราบผลการติดเชื้อและได้เข้ารับการรักษานานที่สุดก่อนเสียชีวิตคือ 52 วัน ค่ากลางอยู่ที่ 9 วัน ถือว่าระยะเวลาเฉลี่ยในการนอนรักษาที่รพ.ลดน้อยลงหรือเสียชีวิตเร็วขึ้น จึงขอแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโดยเร็ว นอกจากนี้ยังมีการกระจายของผู้ป่วยในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย โดยส่วนหนึ่งเป็นการพบผู้ป่วยที่เดินทางออกจากพื้นที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งหากผู้ที่เดินทางกลับต่างจังหวัดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วน10 อันดับที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 1,692 ราย อันดับ 2 สมุทรปราการ 647 ราย อันดับ 3 สมุทรสาคร 293 ราย อันดับ 4 นนทบุรี 185 ราย อันดับ 5 สงขลา 182 ราย อันดับ 6 ปทุมธานี 180 ราย อันดับ 7 นครปฐม 168 ราย อันดับ 8 ชลบุรี 146 ราย อันดับ 9 ปัตตานี 143 ราย อันดับ 10 ยะลา 89 ราย เฝ้าระวัง 106 คลัสเตอร์ จากการลงพื้นที่ตรวจยังคงพบการติดเชื้อในตลาดอยู่ในระดับที่สูงเช่นเดียวกับแคมป์คนงาน จึงขอฝากพ่อค้า แม่ค้า ช่วยดูแลมาตรการการป้องกันเพิ่มมากขึ้น
“พบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้นในแต่ละจังหวัด ที่ จ.ปทุมธานี โรงงานทำสบู่ อ.ลำลูกกา ติดเชื้อแล้ว 46 ราย จ.นครปฐม โรงงานยางรถยนต์ อ.นครชัยศรี จ.สมุทรสาคร โรงงานห้องเย็น อ.เมือง จ.ระยอง บริษัทผลิตสายไฟ อ.ปลวกแดง จ.พระนครศรีอยุธยา บริษัทผลิตแผงวงจรไฟฟ้า อ.บางปะอิน และจ.เพชรบุรี บริษัทแห่งหนึ่ง (ไม่ระบุ) อ.เขาย้อย หลายจังหวัดที่เหลือยังคงพบการติดเชื้อเพิ่มเติมในคลัสเตอร์เดิมที่พบต่อเนื่อที่จ.ชลบุรี จังหวัดในภาคใต้ที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์มัรกัส จ.ระนอง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สระบุรี ส่วนที่ไม่พบผู้ป่วยในรอบ 28 วัน เพิ่มขึ้น 7 แห่ง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 สะสม 28 ก.พ. – 28 มิ.ย. ฉีดสะสม 9,416,972 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 6,721,038 ราย และเข็มสอง 2,695,934 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั่วโลก พบยอดผู้ติดเชื้อรวม 182,192,485 ราย อาการรุนแรง 80,394 ราย รักษาหายแล้ว 166,747,882 ราย เสียชีวิต 3,945,316 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 34,511,636 ราย 2. อินเดีย จำนวน 30,316,000 ราย 3. บราซิล จำนวน 18,448,402 ราย 4. ฝรั่งเศส จำนวน 5,770,530 ราย 5. รัสเซีย จำนวน 5,472,941 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 76.-สำนักข่าวไทย
