กรุงเทพฯ 4 มี.ค.- นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างขึ้น เพื่อตรวจสอบ วิธีการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย( รฟท.) อาจส่งผลให้การดำเนินการรถไฟทางคู่ล่าช้าไปบ้าง แต่ก็จะเป็นช่วงเวลาเพียงเล็กน้อย 1-2 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการตั้งซุปเปอร์บอร์ดเข้ามาตรวจสอบและวางกรอบการประกวดราคารถไฟทางคู่ เนื่องจากในอนาคต การดำเนินการพัฒนาระบบราง จะมีเงินลงทุนเป็นมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาท จึงจำเป็นต้องวางกรอบไว้ เพื่อให้การดำเนินการในทุกขั้นตอนโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับ
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง กรรมการ และรักษาการ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่าในส่วนของคณะกรรมการฯและฝ่ายบริหารของรถไฟ พร้อมดำเนินการตามแนวทางที่ซุปเปอร์บอร์ดกำหนดให้ สำหรับโครงการประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางนั้น โดยขณะนี้ก็มีแนวทางที่จะปรับปรุงการประกวดราคาอยู่หลายแนวทางที่ทำได้ จะยืนยันว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคากลาง หรือมูลค่าโครงการของแต่ละเส้นทางใหม่ เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องมีการศึกษารายละเอียดและนำเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีใหม่อีกครั้ง
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ วานนี้(3 มี.ค.) ว่า จากการติดตามข้อมูลการดำเนินการรถไฟทางคู่อยู่ระหว่างดำเนินการขณะนี้ พบว่ารถไฟทางคู่ 7 เส้นทางนั้น มี 2 เส้นทาง ที่เซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างไปเกือบปีแล้ว ก็ให้เดินหน้าต่อไป แต่ทางบอร์ดจัดซื้อจัดจ้างและบอร์ด รฟท. เห็นตรงกันว่า จะต้องมีการติดตามการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งทางบอร์ด รฟท. ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาแล้วเพื่อปรับปรุงกลไกในการติดตามการปฎิบัติตามสัญญาต่อไป ส่วนโครงการรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทาง ที่ยังอยู่ระหว่างประมูล และมีเอกชนยื่นซองประกวดราคาเข้ามาแล้วนั้น ยังคงหยุดไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งหวังว่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมวันที่ 10 มี.ค.นี้ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ด้านทีโออาร์ 5 โครงการรถไฟทางคือดีกว่า 2 โครงการแรก แต่ทางบอร์ด รฟท. ชุดใหม่มองว่า อาจยังไม่สมบูรณ์แบบที่สุด-สำนักข่าวไทย