รัฐสภา 23 มิ.ย.-“สิริพงศ์” หนุน รธน. มาตรา 55/1 UBI (รายได้ถ้วนหน้าเพื่อประชาชน) แจกจ่ายกับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมโดยไม่มีเงื่อนไข ชี้เป็นการทำให้คุณค่าของความเป็นคนของคนเท่ากัน
วันที่ 23 มิถุนายน 2564 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย อภิปรายสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 7 มาตรา 55/1 ซึ่งเสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ โดยร่างฉบับที่ 7 นี้ มีเนื้อหาสำคัญ คือ รัฐต้องจัดให้ประชาชนได้รับรายได้พื้นฐานถ้วนหน้าอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างทั่วถึง
“เนื่องจากปัจจุบันนี้ สังคมของโลกใบนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งการเปลี่ยนแปลงของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และมีคำถามจากประชาชนจำนวนมากว่า เมื่อเทคโนโลยีมาทดแทนแรงงานมนุษย์แล้ว มนุษย์จำนวนมากที่จะต้องตกงาน เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ต่อไปคนทำงานในโรงงานจะมีเครื่องจักรมาแทน รถยนต์สามารถที่จะขับได้โดยอัตโนมัติ ต่อไปอะไรที่เคยใช้มนุษย์ทำงานจะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เราจะช่วยเหลือคนเหล่านี้อย่างไร ปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าคนตกงาน แต่ปัญหานี้ยังลามไปถึงว่า เมื่อคนเหล่านี้ตกงานแล้ว กำลังซื้อมหาศาล กำลังจะหายไปจากโลกนี้จะทำอย่างไร นี่คือหนึ่งในปัญหานั้น”
นายสิริพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่นับวันยิ่งจะทีวีความรุนแรง คนรวยจำนวนน้อยลง ในขณะที่คนจนจำนวนมากขึ้น และไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลายสถานการณ์เหล่านี้ได้ จึงมีแนวคิดขึ้นมาว่า ต้องมีการประกันรายได้ให้กับประชาชนทุกคนอย่างถ้วนหน้า หรือ UBI ( Universal Basic Income) ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลับมีคนหยิบยกขึ้นมาพูดจำนวนมาก เพราะสถานการณ์โควิด วันนี้นักคิดในยุคปัจจุบันที่นำเสนอเรื่อง UBI ขึ้นมาเช่น มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และอีลอน มัสก์ ได้บอกว่า ถึงเวลาแล้วที่โลกจะต้องเอานโยบายของ UBI (รายได้ถ้วนหน้าเพื่อประชาชน) กลับมาใช้ จึงเป็นที่มาว่า ทำไมในปัจจุบันนี้ ในหลายๆ ประเทศมีการพูดถึง และมีการนำกลับมาใช้
“UBI หรือ รายได้ถ้วนหน้าเพื่อประชาชนจะให้อะไรกับประชาชนบ้าง หลักคิดของ UBI คือ แจกจ่ายเงินให้กับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมโดยไม่มีเงื่อนไข และต้องเป็นรูปแบบของเงินสดเท่านั้น เพราะคนที่จะรู้ว่าเงินนั้นจะเอาไปใช้อะไรไม่มีใครรู้ดีเท่ากับผู้รับ แต่ไม่ได้คิดว่าจะให้เยอะจนเกินไป ให้ผู้นั้นสามารถมีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้”
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า ความท้าทายของเรื่อง UBI มีมาก และต้องมีคำถามแน่นอนว่า จะเอาเงินมาจากไหน ถ้าเขาได้รับเงินมาเปล่า ใช้เงินไม่มีวินัย และจะขี้เกียจทำงานหรือไม่ เรื่องนี้มีงานวิจัยรับรองอย่างประเทศอย่างฟินแลนด์ ว่า เมื่อคนได้รับเงิน UBI แล้ว ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นเนื่องจากว่ามีความเครียดลดลง บางทฤษฎี เสนอว่า อาจจะลองทำจากสัดส่วนเล็กๆ ก่อน เช่น ดูว่าใครที่มีรายได้ภาษีไม่เข้าเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี อาจจะได้รับเงินสนับสนุนจากคนที่เสียภาษีเกินเกณฑ์ โดยมีสูตรคำนวณ หรือที่เรียกว่า Negative Income tax คือคนที่มีภาษีติดลบ รัฐอุดหนุน เพื่อให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
“เรื่อง UBI นี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับสภาแห่งนี้ ภายนอกอาจจะมีกลุ่มผู้คนจำนวนมากที่เขาพูดถึง มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มอย่างเช่นกลุ่มแคร์ ที่เขาพูดถึงเรื่องนี้อยู่ภายนอกสภาแล้ว แต่วันนี้รัฐสภาแห่งนี้ พรรคภูมิใจไทย จะขอเป็นพรรคแรกที่จะปักธงเรื่องนี้ และยืนยันว่า จะสนับสนุนนโยบายลักษณะนี้ในทุกๆ โอกาส วันนี้ขอวอนท่านสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน กรุณาให้โอกาสสนับสนุนร่างฉบับที่ 7 นี้ แล้วเรามาถกเถียงกันว่าจะทำอย่างไร จะเดินหน้าอย่างไร อย่าเพิ่งเอาปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้มาตัดโอกาส การแก้ไขมาตรา 55 /1 นอกจากจะเป็นการช่วยคนยากจน และเป็นการให้รายได้แก่ผู้ยากจนแล้ว ยังเป็นการทำให้คุณค่าของความเป็นคนของคนเท่ากัน จึงขอความกรุณาจากสมาชิกทุกท่านว่า วันนี้เรามาจุดไม้ขีดก้านแรกด้วยกัน ” นายสิริพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย.-สำนักข่าวไทย