จ.ขอนแก่น 18 มิ.ย.-กลุ่มสามมิตรออกจากที่ประชุมพปชร. หลังยินดี “ร.อ.ธรรมนัส” เป็นเลขาฯพปชร.ใหม่ ทั้งที่ยังไม่นับคะแนน “สมศักดิ์” เชื่อ “พล.อ.ประวิตร-ร.อ.ธรรมนัส” จะทำให้งานของพรรคเดินหน้า ไม่คิดเรื่องเสียดุลอำนาจ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายหลังการเสนอชื่อกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐชุดใหม่ แม้ยังไม่มีมตินับคะแนน ปรากฏว่าแกนนำกลุ่มสามมิตร นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมกับส.ส.ส่วนหนึ่งเดินออกจากห้องประชุมทันที หลังจากที่นายอนุชาถอนตัวจากการเสนอชื่อให้ดำรงเลขาธิการพรรค โดยให้เหตุผลว่าได้ทำหน้าที่เป็นระยะเวลา1ปีแล้ว อยากให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน ทำให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคเสนอชื่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเป็นการเสนอรายชื่อเพียงรายเดียว
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งโดยแสดงความยินดีกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดิม และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเลขาธิการพรรค แทนนายอนุชา ซึ่งมองว่าทั้ง 2 ตำแหน่งต้องทำงานสอดคล้องกัน เพื่อเข้าถึงคนในพรรค และทำให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้
“ผมเชื่อว่าพล.อ.ประวิตรและร.อ.ธรรมนัสที่มีความสนิทสนมกันมาก จะสามารถทำให้งานเดินหน้าต่อไปได้ดี ผมไม่มีอะไรมากมาย พร้อมให้ความร่วมมือตามแนวทางของพรรค ส่วนการปรับโครงสร้างภายในพรรค เตรียมความพร้อมรับศึกเลือกตั้ง ถือเป็นความหวังของพรรค ที่จะทำให้พรรคได้รับความนิยม ยืนยันว่าในส่วนของรัฐบาลที่พรรครับผิดชอบอยู่ ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเหลือเวลาเพียง 1 ปี 9 เดือน” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนหลังจากนี้จะมีความขัดแย้งและแบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ในพรรคอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนทำงานอย่างเต็มที่ในส่วนที่ได้รับผิดชอบในกระทรวงยุติธรรม สำหรับกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีหลังเปลี่ยนโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่ายังไม่ปรับคณะรัฐมนตรีในขณะนี้ ทุกคนทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่
ส่วนกระแสยึดกระทรวงของกลุ่มสามมิตร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องอนาคต ค่อยว่ากันใหม่
เมื่อถามย้ำว่า รู้สึกอย่างไรที่ต้องเสียดุลอำนาจบางส่วนภายในพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เสียอะไร ทุกคนมีปากมีเสียง มีแนวทาง และพล.อ.ประวิตรรับฟังทุกคน แต่เมื่อหัวหน้าพรรคตัดสินใจปรับเปลี่ยนแล้วก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค เพราะให้ความไว้วางใจไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย