นนทบุรี 16 ก.พ. – ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งกระจายการลงทุนลดความเสี่ยง เล็งลงทุนธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น หลังประสบความสำเร็จร่วมพันธมิตรประมูล 2 เส้นทางรถไฟฟ้าที่คาดจะลงนามสัญญาในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ส่วนแผนลงทุนปีนี้เพิ่มกำลังผลิตให้ได้ 7,500 เมกะวัตต์ ลงทุน 1 หมื่นล้านบาท
นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานมีเป้าหมายขยายการลงทุนให้ได้ 7,500 เมกะวัตต์ และรักษาอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ (Return on Asset) ให้อยู่ที่ร้อยละ 6 โดยมีโครงการเป้าหมายที่อยู่ระหว่างเจรจาขั้นสุดท้ายและที่มีศักยภาพการลงทุนประมาณ 1,100 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่า และโครงการที่ลงทุนแล้วซึ่งกำลังพัฒนาและก่อสร้างอีก 538 เมกะวัตต์ โดยเตรียมเงินทุนไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้ในโครงการที่กำลังพัฒนาและก่อสร้าง ที่เหลือจะใช้สำหรับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นทั้งในไทย สปป. ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเมียนมาร์ มีศักยภาพและโอกาสการลงทุนที่ดีมาก
ส่วนปี 2556 บริษัทวางแผนพอร์ตการลงทุนเทียบเท่ากำลังผลิตไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นการลงทุนในประเทศร้อยละ 60 ต่างประเทศร้อยละ 40 และพลังงานทดแทนร้อยละ 20 เพิ่มจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนร้อยละ 10
“แผนงานบริษัทฯ จะกระจายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่ไม่ใช่พลังงานมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจระยะยาว โดยการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ เช่น การลงทุนรถไฟฟ้า ทางด่วน ธุรกิจน้ำ ซึ่งจะช่วยรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น เช่น ธุรกิจไฟฟ้ามีแนวโน้มจะพึ่งพาการผลิตจากโรงไฟฟ้าขนาดเล็กในพื้นที่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยบริษัทต้องหาทางเพิ่มรายได้และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น”นายรัมย์ กล่าว
นายรัมย์ กล่าวด้วยว่า บริษัทและพันธมิตร คือ กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS Group บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ยังพร้อมที่จะเข้าประมูลโครงการรถฟ้าของรัฐบาล หลังจากที่ผ่านมาชนะประมูล 2 โครงการ
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 10 และพร้อมจะถือหุ้นเพิ่มหากผู้ร่วมทุนให้โอกาส โดย 2 โครงการนี้คาดว่าจะลงนามสัญญาก่อสร้างโครงการได้ประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ จากนั้นจะเร่งหารือสถาบันการเงินเรื่องการปล่อยสินเชื่อเงินกู้ ซึ่งตามแผนราชบุรีโฮลดิ้งต้องใช้งบลงทุนโครงการละ 14,000 ล้านบาท แต่จะใช้กระแสเงินสดของบริษัทฯ เองส่วนหนึ่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างช่วงต้นปีหน้าใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
สำหรับผลดำเนินการปี 2559 บริษัทรับรู้กำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ 8,338.23 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทฯ 6,165.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 93 จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 เสนอจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น 3,408 ล้านบาท คิดเป็น 2.35 บาทต่อหุ้น โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 วันที่ 5 เมษายน 2560 ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นแล้วเป็นเงิน 1,595 ล้านบาท อัตรา 1.10 บาทต่อหุ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 จึงคงเหลือเงินปันผลสำหรับงวดนี้ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท คาดว่าจะสามารถจ่ายผู้ถือหุ้นได้ในวันที่ 27 เมษายน 2560.-สำนักข่าวไทย