รัฐสภา 14 มิ.ย. – นายกฯ สั่งบริหารวัคซีนตามโควตา เพราะทยอยมาเป็นลอต วอนเห็นใจ ทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ ติงผู้ว่าฯ กทม. ขอปลดล็อกมาตรการเอง แต่กลับไม่พร้อมเปิดสวนสาธารณะ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการบริหารวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่ประชาชนโดนเลื่อนฉีดว่า รัฐบาลบริหารจากจำนวนยอดวัคซีนที่เข้ามา ไม่ใช่วัคซีนยอดใหญ่ที่จะเข้ามาทั้งหมด แต่จะทยอยเข้ามาเป็นรายเดือน ซึ่งพยายามจัดสรรให้มากที่สุดเท่าที่มีให้ได้ ดังนั้น หน่วยในพื้นที่มีการนัดหมายหลายช่องทาง โดยตนก็ไม่โทษใคร แต่วัคซีนมาในแต่ละงวดจำกัด ก็ต้องฉีดให้คนที่นัดมาก่อน ดังนั้น ในวันนี้ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องนัดวันฉีดวัคซีนให้สอดคล้องกับวัคซีนที่จะได้รับในแต่ละงวด เพราะที่บอกว่าจะให้ล้านโดส เวลาให้จะต้องทยอยให้ครั้งละ 1-2 แสนโดส จะต้องไปบริหารจัดการในอัตราของตัวเองให้ได้ โดยจะต้องฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่มีโรคประจำตัวที่ลงทะเบียนมาก่อน และในส่วนของ กทม.นั้น ยังมีส่วนอื่นที่ฉีดให้คน กทม. ทั้งประกันสังคม ครู กลุ่มเสี่ยง ร้านอาหาร ซึ่งเป็นยอดที่คน กทม.ได้ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะส่วนที่ให้ผ่านผู้ว่าฯ กทม. โดยวัคซีนที่จะเข้ามาในปีนี้ 100 กว่าล้านโดสแล้ว
“ผมไม่โทษใคร วันนี้อาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะพูดกันหลายทางเหลือเกิน วันนี้ผมจำเป็นต้องให้ ศบค.พูดในหลักการของผม และวันนี้ผมคุยกับทางผู้ว่าฯ ทุกภาคส่วนไปแล้วให้บริหารตามนี้ เพราะยอดคนต้องการฉีดจำนวนมาก วันหนึ่งฉีดได้เป็นหมื่นเป็นแสน ขอให้เข้าคิวกันครับ ลอตแรกมาก่อน ที่เหลือก็ตามเข้ามา จะต้องเข้าถึงทุกคน ผมบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว เห็นใจผมบ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับกรณีที่ในวันนี้ (14 มิ.ย.) สวนสาธารณะยังไม่เปิดให้ในตอนเช้า ทั้งที่มีการประกาศผ่อนคลายสถานที่ 5 ประเภท ให้มีผลในวันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้บอกไปยังผู้ว่าฯ กทม. ให้ทำให้ถูกต้องและรวดเร็ว เพราะให้ข่าวตั้งแต่วานนี้ (13 มิ.ย.) ว่าจะเปิดในวันนี้ ดังนั้นจะต้องเตรียมรองรับให้พร้อม เพราะทางผู้ว่าฯ กทม. ขอมาเองว่าอยากให้ผ่อนคลายมาตรการในวันจันทร์ จึงได้ให้ ศบค.พิจารณาเร่งด่วนตั้งแต่วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา จึงให้ข่าวออกไป และสั่งการให้แก้ไขปัญหาไปแล้ว ก็ต้องขอโทษประชาชนด้วยแล้วกัน ทั้งนี้ เชื่อว่าต่อไปคงไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารเช่นนี้อีก ขอให้สื่อสารให้ตรงกัน และเข้าใจให้ตรงกัน.-สำนักข่าวไทย