รัฐสภา 27 พ.ย.-“ทรงศักดิ์- อธิบดีกรมที่ดิน” เข้าแจง กมธ.ที่ดิน ปมเขากระโดง โอดสงสารชาวบ้านกว่า 900 รายได้รับผลกระทบ ชี้ แม้ศาลพิพากษาถึงที่สุด แต่ต้องพิสูจน์สิทธิเฉพาะคู่ความ ต้องเป็นธรรมต่อประชาชน ด้าน “พูนศักดิ์” ยัน พิจารณายึดข้อกฎหมายไม่โยงการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (27 พ.ย.) คณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงประเด็นข้อพิพาทที่ดินเข้ากระโดง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม และกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจง
นายพูนศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่า ประเด็นเขากระโดงประชาชนให้ความสนใจ กรรมาธิการฯยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในขอบเขตอำนาจ หน้าที่ ของคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รวมถึงกระบวนการที่มาของการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งจากการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ถ้าเห็นว่ามีประเด็นน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ตัวประมวลกฎหมาย ควรจะต้องเร่งดำเนินการ รอคณะกรรมการชุดนี้มีผล ในการวินิจฉัยว่าจะเพิกถอนหรือไม่
นายพูนศักดิ์ ยังระบุอีกว่า ประเด็นสำคัญ อยู่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องดำเนินการต่อ ไม่ว่าจะไม่ว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งมีระเบียบของการอุทธรณ์ไว้อยู่ ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เงียบและหายไปกับสังคม ยืนยันว่าการประชุมของคณะกรรมาธิการฯในวันนี้จะเห็นภาพของที่มาที่ไป ของคณะกรรมการตามมาตรา 61 ถ้ากระบวนการจัดตั้งไม่ถูกต้อง จะต้องแก้ไขระเบียบใหม่ และเชื่อว่าในประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ การทุจริต ในการเพิกถอน และการออกเอกสารสิทธิ์ ดังนั้นคณะกรรมาธิการชุดนี้จึงมีความสำคัญมาก ในการจัดการที่ดินของประเทศ และประสิทธิภาพของคณะกรรมาธิการชุดนี้ เป็นอีกประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ
ส่วนที่เรื่องนี้มีคนการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเมืองหรืออิทธิพล หรือการเมืองอาจมีส่วนสัมพันธ์เกี่ยวข้อง เราอาจจะไม่ได้พิจารณาในการประชุมวันนี้ โดยหัวข้อหลัก ในการประชุมคือเรื่องของข้อกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติ แต่หากมีช่องโหว่ใด ที่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง ก็เป็นหน้าที่ ของคณะกรรมาธิการในการแก้ไขและปรับปรุง ข้อกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่าหากมีคนการเมืองเข้าไปล้วงลูกเกี่ยวข้องจริงๆจะสาวถึงเจ้าตัวหรือไม่ นายพูนศักดิ์กล่าวย้ำว่า การประชุมกรรมาธิการ จะเน้นระเบียบวิธีปฏิบัติ ของคณะกรรมการมาตรา 61 มีข้อบกพร่องอย่างไร และหากมีข้อบกพร่องกรรมาธิการจะดำเนินอย่างไร ซึ่งเป็นงานหลักของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการดูว่าข้อกฎหมายช่องโหว่ระเบียบปฏิบัติของฝ่ายบริหารเป็นอย่างไร เพื่อนำมาแก้ไข
ขณะที่ นายทรงศักดิ์ กล่าวระหว่างการประชุมช่วงแรกว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ตนในฐานะได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมที่ดิน ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่คณะกรรมาธิการจะประชุมวันนี้ ซึ่งเรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องที่สนใจจากประชาชน ซึ่งประชาชนเองจะดูข้อมูลจากสื่อเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ความชัดเจนเท่าที่ควร และข้อมูลในวันนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้กรรมาธิการได้มีข้อมูลในการที่จะประชุมหารือและสรุปประเด็น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นประโยชน์กับการรถไฟ ซึ่งบอกว่าเป็นที่ของการรถไฟให้เกิดความชัดเจน
นายทรงศักดิ์ ระบุว่า เรื่องเขากระโดง ไม่ได้กระทบกับสิทธิของคนคนเดียว ทั้งส่วนราชการก็ด้วยทั้งการรถไฟ และส่วนของประชาชน ซึ่งตนเห็นตัวเลขก็รู้สึกเห็นใจ 900 กว่าราย ที่ได้ครอบครองที่ดินมาโดยชอบด้วยกฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งหลายคนก็เข้าใจว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วถึงที่สุดที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟทั้งหมด แม้ให้กรรมาธิการเป็นสื่อกลางสะท้อนข้อเท็จจริงให้เห็นทั้ง 2 ทาง ทั้งการได้มาที่ดินของการรถไฟ ประชาชนได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาอย่างไร เพื่อที่ได้เป็นข้อมูลให้เกิดความชัดเจน แม้ว่าคำพิพากษาถึงที่สุดก็ต้องยอมรับ แต่จะเป็นที่สุดเฉพาะคู่ความ คู่ความคนอื่นที่ไม่ได้เป็นคู่ความก็ต้องมีการพิสูจน์สิ ทธิ์ว่าการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ หากเพิกถอนทั้งหมด จะเป็นธรรมต่อประชาชนหรือไม่.-319.-สำนักข่าวไทย