กรุงเทพฯ 21 ก.พ.- กทม.สนธิกำลังตำรวจ กวาดล้างและจับกุมผู้ค้าและโชเฟอร์รถตุ๊กตุ๊ก ให้บริการเอาเปรียบและหลอกลวงนักท่องเที่ยวหลายรูปแบบ จับผู้กระทำผิด 75 ราย เพื่อเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย
พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจปฎิบัติการพิเศษ หรือ 191 ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ และ สน.พระราชวัง เจ้าหน้าที่ทหาร เทศกิจ แถลงผลระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม บริเวณแหล่งท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ หลังพบพ่อค้าแม่ค้าบางส่วน มีพฤติการณ์รบเร้าชักจูงหลอกลวงนักท่องเที่ยวให้ไปซื้อสินค้าและบริการตามร้านต่างๆ เพื่อเรียกเก็บค่าบริการเกินจริง โดยมีกลุ่มผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กและแท็กซี่ร่วมขบวนการหลอกลวงผู้เสียหายแลกกับค่าตอบแทนรายหัว ส่งผลให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเสียหาย
ผลระดมกวาดล้าง สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้รวม 75 คน ทั้งสามล้อเรียกเก็บค่าโดยสารเกินจริง แท็กซี่ปฎิเสธรับผู้โดยสาร ขายของบนทางเท้า ใช้รถโดยสารโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับขี่รถโดยสารแล้วแต่งกายไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาเปรียบเทียบปรับ ในความผิดก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลในที่สาธารณะ ระวังโทษปรับสูงสุด 3,000 บาท
พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวว่า การระดม กวาดล้างดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับการหลอกลวงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ออกดูแล ชี้แจง ตักเตือน ให้ผู้ประกอบการรถสามล้อ รถแท็กซี่ มีจิตสำนึก ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว
ด้านพลตำรวจตรีสุรเชษฎ์ กล่าวว่า การ ระดมกวาดล้างในครั้งนี้เน้นตรวจสอบ 18 จุดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น รอบวัด รอบ วัง ท่าน้ำต่างๆ หากพบมีการกระทำผิดซ้ำซาก กรมการขนส่งทางบก มีมาตรการคุมเข้ม เช่น ปรับ ยึดใบขับขี่ 3เดือน หรือถาวร ส่วนปัญหาร้านจำหน่ายเสื้อสูท ให้ตำรวจท่องเที่ยว ดูแล ป้องกันการโก่งราคา ขายเสื้อผ้าคุณภาพต่ำ รวมทั้งร้านอาหาร ที่โก่งราคากับนักท่องเที่ยวเช่นกัน เพื่อเร่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวยังมีคดีเกี่ยวกับการปลอมแปลงบัตรนักศึกษาต่างชาติ และบัตรประจำตัวตำรวจสากล บริเวณถนนข้าวสาร แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เนื่องจากข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ ใช้ได้กับเฉพาะเอกสารในประเทศไทย ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจสามารถดำเนินการได้เพียงกวาดล้างผู้ประกอบการไม่ให้ขายเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย