นราธิวาส 25 พ.ค.- จุดใหญ่ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษคือที่นราธิวาส หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือการเร่งปิดช่องว่างทุกช่องทางเพื่อสกัดไม่ให้มีการขยายวงกว้าง และไม่ให้มีการลักลอบนำเชื้อเข้ามาอีก
วันนี้ พลตรีศานติ ศกุลตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ลงพื้นที่ชายแดนจังหวัดนราธิวาส เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ ลาดตระเวน คุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตั้งแต่พื้นที่ชายแดน ต่อเนื่องเข้ามาพื้นที่ชั้นในและเขตเมืองอย่างเป็นระบบ หลังพบการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ มาจากผู้ลักลอบเข้ามา ทำให้เกิดการระบาดในหมู่บ้านแนวชายแดน
ทั้งนี้ การเฝ้าตรวจแนวชายแดนที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 ได้จัดชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ 85 ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจตลอดแนวชายแดนพื้นที่ อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ ระยะทาง 95 กิโลเมตร เฝ้าตรวจตลอด 24 ชั่วโมง แต่ยังพบมีหลุดลอดเข้ามา จึงสั่งการให้กำลังเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน ปรับเปลี่ยนวิธีการ และยุทธวิธีใหม่ ให้สอดรับกับสถานการณ์ในพื่นที่ โดยเฉพาะในจุดล่อแหลม เพื่อปิดทุกช่องว่าง สกัดกั้นทั้งกลางวันและกลางคืน โดยประสานกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมเน้นย้ำทำความเข้าใจกับหมู่บ้านตามแนวชายแดนเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตา ไม่ให้มีผู้ลักลอบหลบหนีเข้ามาในทุกช่องทาง นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้กำลังแนวชายแดนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
และวันนี้ พลเอกพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ด้วย
ส่วนในพื้นที่นราธิวาส นอกจากทางจังหวัด สั่งปิด 9 หมู่บ้านของ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ซึ่งเป็นจุดที่พบโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ จากครอบครัว 3 พ่อแม่ลูก แอบลักลอบข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติเข้ามาแล้ว ล่าสุด ได้สั่งปิดเพิ่มเติมในอีก 2 อำเภอ คือ อ.บาเจาะ ที่พบการระบาดในพื้นที่บ้านยามูแรแน จำนวน 26 คน และ อ.สุไหงปาดี ซึ่งพบการระบาดในพื้นที่บ้านจือแร และบ้านกำปงปือแน จำนวน 15 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการคุมเข้มการเข้าออกหมู่บ้าน อย่างเช่นการอนุญาตให้ใช้ถนนเพียง 1 สายเท่านั้นในการเข้าออกหมู่บ้าน และอนุญาตเป็นกรณีพิเศษกับบุคคล 3 กลุ่ม คือ กลุ่มข้าราชการ รถจำหน่ายอาหารสดและพืชผัก และชาวบ้านที่หมอนัดตรวจโรค แต่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบด้านสาธารณสุขอย่างคร่งครัด ส่วนบุคคลอื่นๆ จะมีการพิจารณาเป็นรายๆ ไป ที่สำคัญผู้นำชุมชนจะต้องทำความเข้าใจกับลูกบ้าน เพื่อร่วมมือกันสกัดการระบาดของโควิดให้มากที่สุด
สำหรับจังหวัดนราธิวาส จากข้อมูลจนถึงเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.64) มีผู้ป่วยสะสมในระลอกใหม่ 716 คน รักษาหายแล้ว 605 คน เสียชีวิต 1 คน อำเภอที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดคืออำเภอเมือง 437 คน รองลงมาคือตากใบ 129 คน.-สำนักข่าวไทย
