กาฬสินธุ์ 13 พ.ค.- “น้องโวลต์” นักเรียนเก่งสอบติดแพทยศาสตร์บัณฑิต ม.มหาสารคาม เปิดใจหลังเจอกระแสดราม่า “จนทิพย์” ระบุสิ่งของเครื่องใช้ที่เห็นทุกอย่างได้มาจากการทำงานตั้งแต่เรียนม.3 เก็บเงินซื้อเพื่อใช้ในการศึกษา พร้อมชี้แจงและขอบคุณผู้ใจบุญ
จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวและโลกออนไลน์เผยแพร่เรื่องราวของนางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือน้องโวลต์ อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ที่สอบติดแพทย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ฐานะทางบ้านยากจน พ่อปลูกพืชผักขาย โดยมีการเปิดรับบริจาค กระทั่งนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบมีผู้ใจบุญบริจาครวมจำนวนเงินกว่า 2,700,000 บาท และได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว เนื่องจากเพียงพอสำหรับการเรียนแพทย์แล้วนั้น ทั้งนี้ต่อมาเรื่องดังกล่าวกลับกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากในโลกออนไลน์มีการจับโป๊ะภาพจากคลิปวีดีโอต่างๆ ของน้องโวลต์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยมีชาวเน็ตจับผิดเห็น ไอแพดโปร นอกจากนี้ยังมีแอปเปิล เพนซิล ขวดน้ำหอมดิออร์ยี่ห้อหรู มีภาพโพสต์รถยนต์ ที่บ้านมีการอินเทอร์เน็ตไวไฟ มีการจัดฟัน จนมีการตั้งข้อสงสัยว่าจนจริงหรือไม่ กระทั่งมีแฮชแท็ก “จนทิพย์” ขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์
ความคืบหน้าวันนี้ นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและให้เข้าเยี่ยมครอบครัวน้องโวลต์ ที่บ้านอีกครั้งหลังมีกระแสดราม่า โดยพบครอบครัวน้องโวลต์อาศัยอยู่บ้านพัก ลักษณะเพิงหมาแหงนมุงสังกะสี ปลูกสร้างอยู่กลางสวนท้ายหมู่บ้านเหมือนเดิม โดยน้องโวลต์พร้อมด้วยนายธนวุฒิ เหล่าบุบผา อายุ 53 ปี พ่อน้องโวลต์ และครอบครัวรอให้ข้อมูล
นางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือน้องโวลต์ อายุ 18 ปี เปิดใจว่าต้องขอกราบขอบพระคุณผู้ใจบุญที่ช่วยกันบริจาคเงินให้กับตนทุกท่าน ไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ใจบุญบริจาคเงินจำนวนมากขนาดนี้ ซึ่งยืนยันว่าตนจะนำไปเป็นทุนการศึกษาในการเรียนแพทย์ เพราะอยากเป็นหมอมารักษาคน และจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ส่วนกรณีมีกระแสดราม่าจนทิพย์ บอกว่าครอบครัวของตนไม่จนจริงนั้น ที่จริงแล้วไม่อยากพูด แต่เมื่อมีกระแสมีก็พร้อมที่จะชี้แจงโดยเฉพาะเรื่องการจัดฟัน ตนทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียนหารายได้พิเศษมาตั้งแต่ ม.3 ซึ่งตอนนั้นฟันมีปัญหาได้ไปพบแพทย์แนะนำให้จัดฟันและรักษาไปด้วยเริ่มทำตอน ม.4 ตอนนั้นพอมีเงินเก็บจากการทำงานจึงตัดสินใจรักษา ส่วนเรื่องไอแพด ตนทำงานเก็บพาร์ทไทม์เช่นกัน เก็บเงินประมาณ 1 ปี จึงซื้อมาใช้เพื่อค้นคว้าข้อมูลในการเรียน ส่วนอินเทอร์เน็ตไวไฟก็เป็นของพี่ชายที่ติดตั้งไว้ทำงานมีค่ารายเดือน 600 บาท พี่ชายเป็นคนชำระให้ น้ำหอมซื้อมาในอินเทอร์เน็ตมือสอง ราคา 300 บาท มีเหลือก้นขวด เอามาตั้งไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้ ส่วนรถยนต์ไม่ใช่ของครอบตน เป็นรถยนต์ของน้า ซึ่งหลังเกิดกระแสครั้งนี้ตนก็รู้สึกเสียใจ เพราะสิ่งที่พูดไปนั้นเป็นความจริง ครอบครัวยากจนจริงๆ ตนต้องทำงานหาเงินเรียนมาตั้งแต่ ม.3 ไม่อยากขอเงินพ่อแม่อย่างเดียว และอยากให้ครอบครัวดีขึ้น
ด้านนายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุดสอบครอบครัวนี้ค่อนข้างยากจน พ่อปลูกผักขาย ส่วนแม่ไม่มีอาชีพ ขณะที่น้องโวลต์นั้นก็เป็นเด็กเรียนเก่งขยัน อย่างไรก็ตามล่าสุดพบว่ามีผู้บริจาคเข้ามา รวมจำนวน 3,795,000 บาท ซึ่งขณะนี้ได้ปิดรับจาคและปิดบัญชีแล้ว โดยเบื้องต้นได้ให้น้องไปทำแผนค่าใช้จ่ายเรียนแพทย์ 6 ปีมาว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และจะตั้งเป็นคณะกรรมการและที่ปรึกษาในการเบิกไปใช้จ่าย ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้แยกบัญชีออกมาเป็นทุนไว้เรียนต่อแพทย์เฉพาะทางต่อไป เพื่อให้เงินบริจาคเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ใจบุญและความตั้งใจของน้องโวลต์.-สำนักข่าวไทย