อสมท วันนี้ (13 พ.ค.) “อนุทิน” ย้ำประชาชนทั่วไปเริ่มวอล์คอินฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้เดือนมิถุนายน เตรียมใช้สถานีกลางบางซื่อประเดิมเปิดรับ วอนเข้าใจเงื่อนไขวอล์คอิน วัคซีนเพียงพอให้บริการประชาชนแน่นอน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนด้วยการวอล์คอินเข้าไปฉีดตามสถานที่ต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้ ว่าขณะนี้เกิดความเข้าใจสับสนกันมาก จึงขอชี้แจงว่าการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติวานนี้มีมติให้ เพิ่มการบริการให้กับประชาชน เพื่อให้การรับการฉีดวัคซีนเข้าถึงได้มากขึ้นด้วยการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนวอล์คอินเข้ามาฉีดได้ เพิ่มเติมจากมาตราการเดิมคือการลงทะเบียน ทั้งช่องทางการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม และการวอล์คอินนั้น จะเริ่มในเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป ไม่ใช่วันนี้หรือพรุ่งนี้ เนื่องจากในเดือนมิถุนายน มีวัคซีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลจึงเปิดช่องทางอำนวยความสะดวกกับประชาชนให้มากที่สุด โดยจะแบ่งเป็นการให้บริการกับผู้ลงทะเบียนหมอพร้อม กลุ่มที่จองมาแบบหมู่คณะ องค์กร บริษัท กลุ่มที่ อสม.พามา และวอล์คอินจากประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตามระหว่างนี้อยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่ ที่จะสามารถรวบรวมคนได้ปริมาณมาก แบบไม่แออัด เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมเสนอให้ใช้ สถานีกลางบางซื่อ ที่เป็นสถานีรถไฟแห่งใหม่ เปิดฉีดให้ประช่าชนทั่วไป ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมจัดสรรวัคซีนจำนวนหนึ่งให้สำหรับบุคคลที่ไม่สะดวกเข้าแอพลิเคชั่น ผู้ที่ไม่มีสังกัด ให้สามารถเข้ามาที่หน่วยบริการต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือ ตามสถานที่ต่างๆ ที่จะมีการให้บริการวัคซีน จะมีสัดส่วนในการให้บริการสำหรับผู้ที่จะวอล์คอินแตกต่างกันไป
“ผู้ที่วอล์คอิน ต้องเข้าใจเงื่อนไขด้วย เปรียบเหมือนเข้าคิวจองร้านอาหาร ใครไปก่อนก็ได้ก่อน ตามคิวที่แต่ละสถานที่มีโควต้า แต่ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันว่าจะเติมจำนวนวัคซีนให้เพียงพอต่อความต้องการ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป วัคซีนจะเข้ามาหลายล้านโดส ครอบคลุมทุกกลุ่ม” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน ยังย้ำว่า การปูพรมฉีดจะเริ่มในเดือนหน้าเป็นต้นไป เดือนนี้อยู่ระหว่างการขยายไปยังกลุ่มบริการสาธารณะ ให้เร็วที่สุด โดยเร็วๆนี้ กระทรวงคมนาคมจะใช้สถานีกลางบางซื่อฉีดให้กลุ่มให้บริการสาธารณะก่อน ในเดือนนี้ และเมื่อใช้พื้นที้เสร็จ ก็จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้เป็นจุดฉีดวัคซีน อาจจะใช้พื้นที่ 3 ชั้น แยกเป็น ประเภท เช่น ฉีดผู้ลงทะเบียน ฉีดให้ผู้เดินทางมาเป็นกลุ่มองค์กร และฉีดให้ประชาชนที่มาเช้าคิวแบบวอล์คอิน
สำหรับวัคซีน ที่จะฉีดให้กลุ่มเสี่ยง ให้บริการทางสาธารณะ ยืนยันว่ามีพียงพอ และสามารถดำเนินการฉีดได้ในเดือนนี้ และอีก2 สัปดาห์ วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า วัคซีนรายหลักของไทยก็จะเริ่มส่งวัคซีนตามสัญญา และจะมีวัคซีนเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก และตอนนี้สถานที่ต่างๆ ทั้งสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยทางการแพทย์ต่างๆ โรงพยาบาลเอกชน พร้อมช่วยสนับสนุนมาฉีดให้ ทั้งสถานที่และบุคลากร เป็นศูนย์บริการฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะจัดส่งวัคซีนไปให้ เช่น โรงพยาบาลจุฬาฯ อาสาใช้คนในสังกัด ใช้บุคลากรช่วยฉีด โรงพยาบาลเอกชน ก็จะช่วย สามารถแบ่งเบาภาระรัฐบาลได้มาก รัฐบาลมีหน้าที่จัดส่งวัคซีนไปให้เพียงพอ ทำอย่างไรต้องไม่ให้วัคซีนขาดตอน .- สำนักข่าวไทย