กทม. 3 พ.ค. – ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนกำชับ “ผู้ว่าฯ ชายแดน” คุมเข้มป้องกันการลักลอบเข้าเมืองนำเชื้อโควิดกลายพันธุ์เข้าประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน ให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผู้ลักลอบเข้าเมืองที่อาจติดเชื้อโควิดเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะข้อกังวลเกี่ยวกับเชื้อกลายพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมป้องกันการแพร่เชื้อเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มข้น
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) จึงขอให้จังหวัดดำเนินการ ดังนี้
- บูรณาการการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ประสานการปฏิบัติ วางมาตรการร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โดยตั้งเครื่องกีดขวาง เพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้น ป้องกันมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ หากพบการลักลอบเข้าประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น
ส่วนในพื้นที่ตอนใน ให้ประสานการปฏิบัติกับตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรองโรค บุคคลและการขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ การคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าเมืองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข การคัดกรองรถขนส่งสินค้า ให้วางระบบการขนส่งสินค้าตามแนวชายแดน กำหนดจุดรับส่งสินค้าให้อยู่ในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดให้มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Commander : IC) ประจำช่องทางผ่านแดนทุกแห่งที่มีการอนุญาตให้ใช้ในการผ่านเข้า-ออก ของบุคคล สินค้า และยานพาหนะที่ชัดเจน สามารถปฏิบัติงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน ยังกำชับให้เข้มงวดการคัดกรองโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งเน้นย้ำหน่วยงานรับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการสถานที่กักกันให้เป็นไปตามแนวทางและมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด. – สำนักข่าวไทย
