สธ. 29 เม.ย.-สธ.เผยตอนนี้การรักษาแพทย์จะเต็มศักยภาพในการรองรับแล้ว แม้วันนี้ผู้ป่วยติดเชื้อลดลงเหลือ 1,871 คน แต่จำนวนผู้ปอดอักเสบและผู้ป่วยใช้ท่อช่วยหายใจรวมกันเกือบ 1,000 คน อีกทั้งอัตราตายพบร้อยละ 0.3 ดังนั้นยังประมาทไม่ได้ พร้อมชี้การติดเชื้อรอบนี้คนแก่เสียชีวิต โดยมีหนุ่มสาวไม่มีอาการแพร่โรค
นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-28 เม.ย.64 มีการฉีดไปแล้ว 1,344,646 โดสใน 77 จังหวัด และเป็นการฉีดวัคซีนเข็มแรก 1,059,721 คน วัคซีนเข็ม 2 จำนวน 284,925 คน
พร้อมเผยอัตราการป่วยทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น แทบทุกประเทศ โดยในส่วนของประเทศวันนี้พบผู้ป่วย1,871 คน ถือว่าสถานการณ์เริ่มชะลอตัวลงจากเดิมที่พบวันละ 2,000คนต่อวัน และสูงสุดในวันที่ 24เม.ย.ถึง 2,800 คน ดังนั้นยังประมาทไม่ได้ เพราะจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ มีจำนวน 786 คน และมีจำนวนผู้ป่วยหนักใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 230 คน ขณะนี้เริ่มพบผู้เสียชีวิต ตัวเลข 2 หลัก และตั้งแต่มีการระบาดในเดือนเมษายน 64 พบผู้เสียชีวิตแล้ว 94 คน จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 188 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต ร้อยละ 0.3 หรือในผู้ป่วย 1,000 คน พบเสียชีวิต 3 คน ส่วนอายุเฉลี่ยของผู้เสียชีวิต พบ 45-91 ปี หรือ เฉลี่ยประมาณ 62 ปี
นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวต่อไปว่า การเสียชีวิตของผู้ป่วยส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มวัยสูงอายุที่ได้รับเชื้อจากคนหนุ่มสาวที่ไม่แสดงอาการ โดยบางส่วนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ที่มีญาติมาเยี่ยม ได้รับเชื้อจากญาติ หรือการติดเชื้อจากผู้ดูแล ส่วนคนหนุ่มสาวเป็นการติดเชื้อจากการรับประทานอาหารในร้านร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มการชะลอตัวลงของสถานการณ์โควิดในไทยจะเริ่มเห็นผล เมื่อมีการบังคับใช้มาตรการไประยะหนึ่ง ดังนั้นมีแนวโน้มพบผู้ป่วยติดที่มีอาการเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้สถานการณ์ทางการแพทย์ ตอนนี้ถือว่าจะเต็มศักยภาพในการรองรับแล้ว .-สำนักข่าวไทย