ชิลี 22 เม.ย.-สัตวแพทย์ในชิลีทดลองฉีดวัคซีนที่ใช้กับสุนัขให้มนุษย์ อ้างช่วยป้องกันโควิด-19 ได้ สุดท้ายเรื่องแดง ถูกแฉแถมถูกปรับเงิน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเมืองกาลามาของชิลีเปิดเผยว่า พบสัตวแพทย์ของคลินิกรักษาสัตว์สองแห่งนำวัคซีนสำหรับสุนัขมาฉีดให้มนุษย์หลายสิบคน โดยใช้วัคซีนสุนัข 8 โดสต่อ 1 คน ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว กรณีแรกสัตวแพทย์อ้างว่า ทำการศึกษาว่าวัคซีนที่ฉีดในสุนัขสามารถฉีดให้มนุษย์เพื่อป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ และได้โพสต์ข้อมูลออนไลน์เพื่อจะขายวัคซีนของสุนัขให้กับมนุษย์ ส่วนอีกกรณี สัตวแพทย์ในคลินิกอีกแห่งใช้วัคซีนสำหรับสุนัขฉีดให้กับพนักงานของตนเพื่อทดลองว่าจะป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่เช่นกัน
การสอบสวนเริ่มขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายสุขภาพและความปลอดภัยของกระทรวงแรงงานตรวจพบว่าคลินิกแห่งหนึ่ง ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในคลินิกไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย และเมื่อสอบถามว่าทำไมไม่สวมหน้ากากอนามัย พวกเขาก็ตอบว่าได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ทั้งที่ขณะนั้นชิลียังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 เลย จึงมีการสืบสวนสอบสวนจนทราบข้อเท็จจริง
มาเรีย เฟอร์นานดา มูนญอซ สัตวแพทย์เจ้าของคลินิกแห่งนี้ ถูกปรับเป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 310,000 บาท แต่เธอยังว่า วัคซีนสุนัขไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อร่างกายเธอเลย และเธอเพียงต้องการศึกษาว่าวัคซีนของสุนัขช่วยป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจเลือดของเธอเพื่อหาแอนติบอดี นอกจากนี้ยังระบุว่าพนักงานที่ได้รับวัคซีนสำหรับสุนัขก็ไม่มีใครเจ็บป่วย ส่วนสัตวแพทย์อีกคลินิกในเมืองเดียวกัน คือ คาร์ลอส เปโดร ถูกปรับเป็นเงิน 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 280,000 บาท ฐานโพสต์ข้อความอวดอ้างประโยชน์ของวัคซีนสุนัขที่มีต่อมนุษย์
ขณะนี้ ชิลีเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโลก ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้วมากกว่า 13.4 ล้านโดส ในจำนวนนี้ฉีดครบสองโดสแล้ว 5.57 ล้านคน หรือคิดเป็น 29.4% ของประชากรทั้งหมด 19.2 ล้านคน ชิลีมีผู้ติดเชื้อสะสม 1.14 ล้านคน และเสียชีวิตสะสมกว่า 25,000 คน.-สำนักข่าวไทย