ย่างกุ้ง 20 ก.พ. – รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและยอมคืนอำนาจหลังจากที่ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารที่เป็นหญิงสาวรายหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต ทำให้เกิดความไม่พอใจต่อต้านรัฐบาลทหารมากยิ่งขึ้น
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หารือกับประเทศพันธมิตร ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันในการกดดันกองทัพเมียนมา โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐขอย้ำข้อเรียกร้องให้กองทัพพม่าหลีกเลี่ยงการใข้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงอย่างสันติ สหรัฐจะประสานงานกับหุ้นส่วนและพันธมิตรในการกดดันกองทัพพม่าให้คืนอำนาจให้กับรัฐบาลพลเรือน สหรัฐตั้งใจใช้คำเรียกเมียนมาว่าพม่า ซึ่งเป็นชื่อเรียกเดิมก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเป็นเมียนมาในปี 2532 เมื่อวานนี้ แพทย์ในกรุงเนปิดอว์ แจ้งว่า ผู้ประท้วงที่เป็นหญิงสาววัย 20 ปีรายหนึ่งเสียชีวิต หลังจากถูกยิงที่ศีรษะในระหว่างการเดินชบวนประท้วงในกรุงเนปิดอว์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เธอเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากการประท้วงในเมียนมาครั้งนี้
สถานการณ์ในเมียนมาอยู่ในสภาพวุ่นวายสับสนนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์จากนางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง โดยมีการชุมนุมและเดินขบวนประท้วงทั้งในเมืองใหญ่และหมู่บ้านในพื้นที่ชนบท กองกำลังความมั่นคงตอบโต้ด้วยการเสริมกำลังทหาร ใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมอย่างสันติดด้วยการยิงแก๊สน้ำตา หัวฉีดน้ำแรงดันสูงและกระสุนยาง ชนกลุ่มน้อยในเมียนมา จะร่วมประท่วงในวันนี้เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร แม้ว่าบางคนจะยังข้องใจเกี่ยวกับคำสัญญาของนางซูจี ที่เคยบอกจะให้อำนาจแก่ชนกลุ่มน้อยในการปกครองตนเอง.-สำนักข่าวไทย