ใช้บริการเรือด่วนกับโครงการ “เราชนะ” ต้องรู้!

กรุงเทพฯ 15 ก.พ.- ใช้เรือโดยสาร กับโครงการ “เราชนะ” ต้องรู้ จ่ายเงินผ่านแอปฯ แล้วต้องรับตั๋วฉีกด้วย ส่วนเรือข้ามฟากกว่า 20 ราย ขอกรมเจ้าท่า-กรุงไทย ลงพื้นที่หน้างาน หาวิธีทำให้การจ่ายค่าโดยสารไม่ส่งผลให้การเดินทางล่าช้าเป็นคอขวดที่ท่าเรือ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมานายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ได้หารือร่วมกับ ผู้แทนธนาคารกรุงไทย และผู้ประกอบการเรือโดยสาร เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา, เรือด่วนคลองแสนแสบ และเรือข้ามฟาก เพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในกรณีที่ผู้โดยสารระบบเรือประเภทต่างๆ จะชำระค่าโดยสารโดยใช้เงินเยียวยาจากโครงการ “เราชนะ” ผ่านแอปฯ “ถุงเงิน” โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารสามารถลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม-31 มีนาคม 2564

นายวิทยา เผยว่า สำหรับความพร้อมของผู้ประกอบการแต่ละรายนั้น เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา ที่เข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” นั้น มีข้อสรุปว่าหลังจากที่ผู้ประกอบการเก็บค่าโดยสารแล้ว ซึ่งจะดำเนินการทั้งหมดรับชำระค่าโดยสารผ่านแอปฯ ก่อนลงเรือ เมื่อจ่ายแล้วจะยังมีการฉีกตั๋วให้แก่ผู้โดยสารทุกคน เพื่อป้องกันปัญหา กรณีที่เมื่อมีการโดยสารเรือไปกลางทางแล้ว เกิดโทรศัพท์ดับหรือแบตเตอร์รี่หมด เมื่อนายตรวจฯ มาขอตรวจตั๋วโดยสาร ก็สามารถแสดงตั๋วให้ตรวจได้ นอกเหนือจากการการตรวจตามระบบชำระ ที่จ่ายผ่านแอปฯ ที่วางระบบไว้


ส่วนกรณีบริการเรือข้ามฟากซึ่งมีราคาค่าโดยสารในหลายอัตรา ในวันนี้ผู้ประกอบการเรือข้ามฟากกว่า 20 ราย ได้ขอให้ธนาคารกรุงไทยและกรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ ท่าเรือข้ามฝากแต่ละแห่ง เพื่อวางระบบให้การจ่ายค่าโดยสารผ่านแอปพลิเคชันไม่ส่งผลให้การเดินทางของประชาชนผ่านท่าฯ หรือโป๊ะ เกิดความล่าช้าสะสมเป็นคอขวด ซึ่งธนาคารกรุงไทยก็ได้ตอบรับที่จะลงพื้นที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว

ส่วนการประเมินจำนวนผู้โดยสาร ที่จะจ่ายเงินเยียวยา ตามโครงการเราชนะและแอปฯ ถุงเงิน จะมีมากน้อยแค่ไหนนั้น อธิบดีกรมเจ้าท่ายืนยันว่าน่าจะมีผู้โดยสารจ่ายเงินโดยวิธีดังกล่าวไม่มากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางโดยบริการเรือโดยสารได้ลดลงมากกว่า 50% โดยทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือด่วนคลองแสนแสบปัจจุบันเหลือผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 10,000 กว่าคนเท่านั้น รวมทั้งโครงการนี้ จะมีช่วงเวลาใช้เงินตามโครงการ ถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้เท่านั้น

ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินโครงการ “เราชนะ” เพื่อบรรเทาและลดภาระประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจะมีการจ่ายเงินเงินเยียวยาให้คนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ตลอดโครงการ โดยมุ่งช่วยเหลือกลุ่มอาชีพอิสระและผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งผู้ให้บริการด้านขนส่งสาธารณะ สามารถเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ในฐานะร้านค้าได้ เพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระค่าบริการ ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม – 31 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00–23.00 น.


สำหรับผู้ให้บริการด้านขนส่งสาธารณะทุกประเภท (ยกเว้นสายการบิน) ที่เข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ในฐานะร้านค้าจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะและส่วนบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย 2.กลุ่มสมัครเพื่อรับชำระค่าบริการรายย่อยทั่วไป ให้ลงทะเบียนได้ด้วยตนเองทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com โดยเตรียมข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ชื่อ-สกุล สำหรับกลุ่มเรือโดยสารที่เจ้าของเป็นนิติบุคคล ประกอบด้วย เรือข้ามฟาก เรือโดยสารในแม่น้ำ ลำคลอง และทะเล สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา โดยจะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องและถูกต้องตามกฎหมาย โดยอธิบดีกรมเจ้าท่า ย้ำว่าผู้ให้บริการด้านขนส่งสาธารณะที่ต้องการร่วมโครงการ “เราชนะ” เตรียมความพร้อมก่อนลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ กรณีไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้ ให้ติดต่อธนาคารกรุงไทยเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร ผูกกับแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้วจึงลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” กรณีที่มีแอปพลิเคชันถุงเงินอยู่แล้ว สามารถลงทะเบียนในโครงการ “เราชนะ” ได้ทันที .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

เมืองพัทยาเอาจริง เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุชายหาด

เมืองพัทยาสั่งแล้ว เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุบนชายหาด หลังเกิดเหตุพลุล้ม วิ่งไประเบิดใส่เด็กบาดเจ็บทั่วร่าง ในคืนเคานท์ดาวน์

SET ปิดตลาดซื้อขายวันแรกปี 68 ร่วงลง 20.36 จุด

ดัชนี SET วันแรกของการซื้อขายปี 2568 ปิดที่ 1,379.85 จุด ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.45% มูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท ตลาดกังวลนโยบายการค้าระหว่างประเทศ-นโยบายภาษี

สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์คว่ำ-กระบะชนต้นไม้

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำและกระบะหักหลบรถตู้รับส่งนักเรียนชนต้นไม้ หลังพบเป็นถนนตัดใหม่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์

บขส.โคราชแน่น คนแห่เข้ากรุง หลังฉลองปีใหม่

บขส.โคราชแน่นต่อเนื่อง แห่ซื้อตั๋วรถโดยสารกลับกรุงเทพฯ คึกคัก ขณะที่ขนส่งจังหวัดฯ ตรวจสารเสพติดพนักงานขับรถเข้ม ป้องกันอุบัติเหตุ