ป.ป.ส. 8 ก.พ.- รมว.ยธ.เผย 4 เดือน ยึดทรัพย์ยาเสพติด 33 เครือข่าย ได้ทรัพย์แล้วเกือบ 2,000 ล้านบาท เร่งแก้กฎหมายยาเสพติดใหม่ ขยายผลยึดทรัพย์ ตัดวงจรขบวนการค้ายาเสพติด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะกรรมการอำนวยการ ศอ.ปส. ร่วมประชุม ซึ่งก่อนการประชุมได้เปิดวิดีโอจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายยาเสพติดที่ให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ ลำดับต้น และปี 2564 รัฐบาลมีเป้าหมายให้ขยายผลการอายัดทรัพย์สินเป็นมูลค่า 6,000 ล้านบาท และให้แก้ไขประมวลร่างกฎหมายยาเสพติด ที่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการยึดทรัพย์ยาเสพติด ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 ผ่านมา 4 เดือน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 จนถึง 31 มกราคม 2564 สามารถจับกุมขยายผลยึดทรัพย์ 33 เครือข่าย ได้ทรัพย์สินแล้วกว่า 1,987 ล้านบาท ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมได้เร่งผลักดันร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินงานได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ การดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด และแนวทางการดำเนินงานขยายผลยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด กำหนดเป็นมูลค่าการยึดทรัพย์สินกระจายลงสู่ระดับจังหวัด ซึ่งพิจารณาจากขนาดปัญหาและงบประมาณที่จัดสรรแต่ละพื้นที่ กำหนดเป็น 3 ขนาด คือ ขนาดใหญ่ 27 จังหวัด กำหนดเป้าหมายมูลค่าการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดให้ได้จังหวัดละ 90 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,430 ล้านบาท ขนาดกลาง 31 จังหวัด กำหนดเป้าหมายมูลค่าการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดให้ได้จังหวัดละ 70 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,170 ล้านบาท ขนาดเล็ก 18 จังหวัด กำหนดเป้าหมายมูลค่าการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดให้ได้จังหวัดละ 50 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 900 ล้านบาท
สำหรับกรุงเทพมหานคร กำหนดเป้าหมายมูลค่าการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดให้ได้ 500 ล้านบาท และกำหนดเป็นตัวชี้วัดเพื่อกำกับ ติดตามการดำเนินงาน ใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน จำนวน 2 ตัวชี้วัด คือ ตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด และตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการดำเนินการในคดีความผิดฐานสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือในคดียาเสพติด
ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ป.ป.ส.ได้เสนอการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับนโยบายนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คือ 1.การกำหนดให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อไปได้ แม้ว่าพนักงานอัยการจะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องจำเลยในคดีอาญา และหากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ทรัพย์สินดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ก็ให้ศาลมีอำนาจพิพากษาให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้ 2.การกำหนดให้นำหลักการในการ “ริบทรัพย์สินตามมูลค่า” (Value-based Confiscation) มาใช้ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการริบทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด.-สำนักข่าวไทย