กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – พี่สาวร้องขอความเป็นธรรม อ้างตำรวจทำร้ายร่างกายน้องชายขณะคุมตัวมาแจ้งข้อหาที่สถานีตำรวจ หลังน้องชายนำบัตรประชาชนมาให้แต่กลับถูกจับเพราะไม่ใส่หมวกกันน็อก
นี่เป็นภาพที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์หญิงสาวยืนร้องไห้ หลังน้องชายถูกตำรวจเข้าจับกุมและอ้างว่าโดนทำร้ายร่างกาย พร้อมระบุข้อความว่า เหตุเกิดที่หลังวัดสายไหม สน.สายไหม น้องสาวขับรถไปขายของตอนตี 4 ตำรวจสายตรวจได้เรียกตรวจบัตร แต่ไม่ได้พกบัตร เลยโทรหาน้องชายคนในคลิปเอาบัตรไปให้ แต่พอไปถึงกลับบอกไม่ใส่หมวกกันน็อกจะจับ พอน้องต่อว่าป้ายตั้งด่านก็ไม่มี ตำรวจโมโหเลยกระชากาล็อกตัวเอาไปที่สถานีตำรวจ
พอไปถึงสถานีตำรวจ เอาน้องเข้าไปทำร้ายร่างกาย เอาก้อนข้าวสารที่อัดแข็งๆ มาทุบลำตัว ทั้งตบ ทั้งบิดคอน้องในห้องสอบสวน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของตำรวจไปต่างๆ นานา
น.ส.เยอ แซ่ว่าง เชื้อชาติม้ง สัญชาติไทย อายุ 21 ปี กล่าวว่า เหตุการณดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 1 ก.พ. ขณะที่ น.ส.มิ แซ่ลี อายุ 18 ปี กับน้องอีกคน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องตน กำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากบ้านพักซอยสายไหม 38 เพื่อไปขายไก่ทอดที่ตลาดยิ่งเจริญ เมื่อขับมาถึงซอยสายไหม 39 ซึ่งอยู่หลังวัดสายไหม พบตำรวจ 4 นาย เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ เนื่องจากคาดว่าเป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ระหว่างนั้น น.ส.มิ ไม่ได้พกบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไปด้วย จึงรีบโทรศัพท์มาหาตน และนายนาต้อง อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นน้องชายต่างบิดาของตน ให้นำบัตรมาให้ จากนั้นตนและนายนาต้อง ขี่รถจักรยานยนต์ไปยังที่หมาย โดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อก จึงถูกตำรวจแจ้งจับในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ก่อนนายนาต้องจะถูกควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจ
น.ส.เยอ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่าระหว่างที่กำลังเจรจากับตำรวจ ทางฝ่ายตนไม่มีการด่าทอหรือพูดจาหยาบคาย แต่เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ตำรวจไม่พอใจเนื่องจากฝ่ายตนถามถึงการตั้งป้ายด่านตรวจที่ไม่พบขณะถูกจับกุม อีกทั้งยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่เมื่อมาถึงที่สถานีตำรวจ นายนาต้องก็ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนยังห้องปฏิบัติการสายตรวจในทันที พร้อมทั้งด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนที่ตนจะมองผ่านทะลุกระจกเห็นน้องชายถูกเจ้าหน้าที่ตบบริเวณท้ายทอยและดึงตัวไปยังอีกมุมห้องหนึ่ง ขณะนั้นตนไม่สามารถช่วยเหลือน้องชายได้ เนื่องจากกำลังจะลุกเพื่อทึกภาพเหตุการณ์ ก็ถูกทางเจ้าหน้าที่สั่งห้าม พร้อมว่ากล่าวตักเตือน และขู่จะยึดโทรศัพท์มือถือ
น.ส.เยอ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ตนจะปรึกษากับทางครอบครัวว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะขอต่อสู้คดีที่ทางตำรวจทำร้ายร่างกายให้ถึงที่สุด หลังจากนายนาต้องถูกแจ้งข้อหาก็ไม่ยอมพูดคุยกับใคร แม้แต่กับพ่อแม่ของตนเองที่เข้าเยี่ยมเอาแต่นั่งเหม่อลอย
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นแจ้งข้อหาแก่นายนาต้อง รวม 2 ข้อหา ประกอบด้วย ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และขัดขวางการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย