ธอส.เผยปัจจัยบวกกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 68 ฟื้นตัว

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – ธอส.เผยปัจจัยบวกกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 68 ฟื้นตัว ทั้งดอกเบี้ยต่ำ ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ยันลูกค้าคอนโดยื่นขอสินเชื่อได้ตามปกติ


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มั่นใจภาคอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 ฟื้นตัวขึ้นจากปี 2567 ปัจจัยบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่คาดการณ์ขยายตัวดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มปรับตัวลดลง รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เป็นการชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะทำให้อัตราการเช่าซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบในปี 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้น ธอส. พร้อมผลักดันให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองมากขึ้น โดยจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลังอย่างเต็มที่ มั่นใจปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 240,000 ล้านบาท ยืนยันพร้อมพิจารณาสภาพหลักประกันของลูกค้าที่ที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อไป

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ในปี 2568 จะขยายตัวอยู่ที่ 2.2% – 3.2% ดีขึ้นจากปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นการเบิกจ่ายและการลงทุนภาครัฐที่จะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบกว่า 260,000 ล้านบาท รวมถึงการฟื้นตัวของการบริโภคและลงทุนภาคเอกชน, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำ, มาตรการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เป็นการชั่วคราวสำหรับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะช่วยลดปัญหาที่อยู่อาศัยค้างสต๊อก รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ที่จะทำให้อัตราการเช่าซื้อที่อยู่อาศัยขยายตัวดี ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทย ในปี 2568 ขยายตัวดีขึ้นจากปี 2567


ธอส.คาดการณ์จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศประมาณ 353,389 หน่วย เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือมีช่วงอัตราการขยายตัวระหว่าง -3.5% ถึง 9.7% ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบในปี 2568 อยู่ที่ 593,634 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อน 1.1% หรือมีช่วงอัตราขยายตัวระหว่าง -1.0% ถึง 5.1% ทั้งนี้ ธอส. ยืนยันพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวได้ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยจะยังคงเป็นผู้นำในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ด้วยการปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างต่อเนื่อง

“หากพิจารณาการปล่อยสินเชื่อใหม่ของ ธอส. ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่า ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมั่นใจในการก่อหนี้ในระยะยาวมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมารองรับความต้องการของประชาชนมากขึ้น และส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้จะเติบโตดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ธอส. มั่นใจว่าจะปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 240,000 ล้านบาท ในปี 2568 นี้ได้อย่างแน่นอน” นายกมลภพ กล่าว

ธอส. ยังคงติดตามปัจจัยมีผลกระทบต่อการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แม้จะมีสัญญาณการปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา, เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่รัดกุมของธนาคารพาณิชย์ และความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจในต่างประเทศ ที่จะมีผลต่อการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทย รวมไปถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่ง ธอส. พร้อมปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดรับกับปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการขอสินเชื่อของประชาชน โดยยืนยันปัจจุบันมีลูกค้า ธอส. ทำนิติกรรมสัญญาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันลูกค้ายังสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตามปกติ


โดย ธอส. เปิดให้ลูกค้าที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อ/ไถ่ถอนห้องชุด จัดทำเอกสารรับรองสภาพหลักประกันว่า โครงการ/อาคารมีความมั่นคงแข็งแรงและสามารถอยู่อาศัยได้ตามปกติ ซึ่งจะทำให้การปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าไม่หยุดชะงัก โดย ธอส.ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง และตามแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อาทิ สินเชื่อซื้อ-สร้าง เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3.00% ต่อปี

สินเชื่อซ่อม-แต่ง เพื่อสนับสนุนลูกค้าเดิมของ ธอส. ที่มีวินัยในการผ่อนชำระหนี้ สามารถกู้เพิ่มเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมอาคาร หรือเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เท่ากับ 1.00% ต่อปี, โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อราย ต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.10%, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568

สำหรับข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐ และลูกจ้างประจำที่เป็นผู้มีสิทธิขอกู้เงิน ตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากของธนาคารที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.17%, โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย ปี 2568

สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมบ้าน กู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยตามแบบบ้านผู้สูงอายุ อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 1.90% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกเพียง 2.50% และสินเชื่อ Solar Roof ปี 2568 สำหรับลูกค้าสวัสดิการที่หน่วยงานทำข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากกับธนาคาร ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระและต้องการกู้เพิ่ม เพื่อซื้อ Solar Roof วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 3.90% ต่อปี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th. -515 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย