รร.อโนมา 26 ม.ค.- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ เผยผลกระทบโควิด-19 ปี 63 ภาคแรงงานท่องเที่ยวตกงาน 4 ล้านคน คาดโควิดระลอกใหม่ตกงานเพิ่มอีกกว่า 2 ล้านคน เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวปิดตัวเพิ่ม เสนอรัฐเยียวยา รักษาการจ้างงานและพัฒนาคนท่องเที่ยว รับโอกาสหลังวิกฤติ
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.) แถลงผลการศึกษา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ประจำไตรมาส4 /2563 ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ดัชนีอยู่ที่ 62 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 3/2563 เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับอานิสงส์จากโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวของภาครัฐ และคาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาส 1 ประจำปี 2564 อยู่ที่ 53 ถือว่าต่ำมากผิดปกติ จากโควิด-19 ระลอกใหม่ และคาดการณ์ว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวรายภาค กรุงเทพมหานครแย่สุด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือดีที่สุด รองลงมาคือ ภาคเหนือ ทั้งนี้พบว่าธุรกิจนำเที่ยวปิดกิจการมากที่สุด คือ 23% รองลงมาคือ ธุรกิจบันเทิง 22% ธุรกิจสปา นวดแผนไทย 21% และธุรกิจโรงแรมที่พัก 20%
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แรงงานภาคการท่องเที่ยวจำนวนกว่า 4 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากการถูกพักงานชั่วคราวและถูกลดเงินเดือน และโควิด-19 ระลอกใหม่คาดการณ์ว่า อาจจะทำให้ภาคแรงงานท่องเที่ยวตกงานมากกว่า 2 ล้านคน เนื่องจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มีทุนพอที่จะรักษาการจ้างงานได้ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศ และเชื่อว่าเมื่อมีวัคซีน การท่องเที่ยวจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวอาจจะปิดกิจการไปแล้วเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เสียโอกาสต่อภาคการท่องเที่ยวไทย สทท.จึงเล็งเห็นว่าจำเป็นต้องเร่งสร้างธนาคารแรงงานภาคท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้ถูกเลิกจ้าง ถูกพักงานสามารถสมัครเข้ามาเพื่อหาโอกาสในการทำงาน และผู้ประกอบการสามารถเข้ามาเลือกจ้างงานผู้ที่มีทักษะตรงกับความต้องการ
ด้านนางมาริสา สุโกศล รองประธาน สทท. และนายกสมาคมโรงแรมไทย เสนอภาครัฐประคองผู้ประกอบการให้ผ่านช่วงวิกฤติโควิด-19 ไปได้ด้วยมาตรการต่างๆทั้ง ช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มสภาพคล่อง และเสริมรายได้ เช่น มาตรการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา2 ปี มาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และมาตรการCo-pay รัฐช่วยจ่ายค่าจ้างสำหรับผู้ประกอบการในระบบประกันสังคมที่ยังคงจ้างงานอยู่เป็นเวลา1 ปี
ด้านนายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ รองประธาน สทท. เสนอว่า หลังจากประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้แล้ว มาตรการแรกที่ต้องทำคือการกระตุ้นไทยเที่ยวไทย เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ครอบคลุมสินค้าการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ การกระตุ้นการเดินทางและจัดประชุมสัมมนาของภาครัฐ องค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสภาบันการศึกษา การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบพรีเมียมเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงการจัดให้มีคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนไทยเที่ยวไทยอย่างจริงจัง โดยแผนงานต่างๆนั้นต้องเริ่มทำตั้งแต่ช่วงนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเกิดความพร้อม เกิดสินค้าทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ยกระดับมาตรฐานและมีศักยภาพพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะต่อไป.- สำนักข่าวไทย