รัฐบาลยันมีงบฯ พอแก้ปัญหาโควิดระลอกใหม่

ทำเนียบรัฐบาล 8 ม.ค.- รัฐบาลเพิ่มความเชื่อมั่น มีงบฯ เพียงพอแก้โควิด-19 ระลอกใหม่ ไฟเขียว 4,661 ล้านบาท สนับสนุนสาธารณสุขดูแลครอบคลุมประเทศปลอดภัย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงรุนแรง ซึ่งข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้น 8% ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 21% โดยทวีปยุโรปมีจำนวนการรายงานผู้ติดเชื้อสูงสุด ในขณะที่ประเทศไทยก็เกิดการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ มีความเสี่ยงสูงที่จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ทำให้ต้องเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะมีการแพร่กระจายในพื้นที่ใหม่อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ พร้อมกับดูแลป้องกันบุคลากรทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่และมีงบประมาณเพียงพอสำหรับดำเนินการ


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564 งบกลาง เป็นค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เพื่อดำเนินโครงการเตรียมความพร้อมรับมือ “นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา โควิด-19 ระลอกใหม่ รวมทั้งการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงานและโครงการอย่างเคร่งครัด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบประมาณทั้ง 4,661 ล้านบาท จะจัดสรรแก่หน่วยงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุข โดยงบประมาณหลักจะอยู่ในส่วนของ ค่าวัสดุ วงเงิน 2,101 ล้านบาท เช่น วัสดุวิทยาศาสตร์สนับสนุนห้องปฏิบัติการ ค่าอุปกรณ์ป้องกันเชื้อ ค่ายาในการรักษาโรคโควิด-19 ค่าเวชภัณฑ์ในการปฏิบัติการในพื้นที่ต่างๆ ค่าวัสดุอุปกรณ์สำหรับ อสม. ซึ่งการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม 1,228 ล้านบาท ตามที่มีรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้ก็อยู่ในส่วนนี้ด้วย


นอกจากนี้เป็นงบประมาณสำหรับค่าตอบแทน เช่น ค่าเสี่ยงภัยของบุคลากรทางการแพทย์ ค่าล่วงเวลา ค่าล่าม วงเงิน 1,625 ล้านบาท ค่าใช้สอยอื่น 872 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นค่าตอบแทนเสี่ยงภัยค้างจ่ายปี 2563 ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิผู้ป่วยค้างจ่าย และค่าใช้จ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ ปีงบประมาณ 2563 “เป้าหมายการดำเนินการครั้งนี้ คือ ทุกคนในประเทศไทย ลดป่วย ลดการเสียชีวิต โดยเฉพาะการปกป้องกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคร่วม กลุ่มเปราะบางและด้อยโอกาส ให้ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อโควิด-19 สามารถควบคุมการระบาด ระลอกใหม่ ช่วยลดผลกระทบทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สังคม และเพิ่มความมั่นคงของประเทศ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก