สมุทรสาคร 4 ม.ค. – จ.สมุทรสาคร ขอความร่วมมือโรงงานทุกแห่งจัดตั้ง “ศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร” เพื่อดูแลแรงงานของตัวเองที่ติดเชื้อโควิด-19 หลัง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ที่จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอ
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงถึง 541 คน ส่วนใหญ่มาจากการตรวจเชิงรุกในโรงงาน เป็นตัวเลขที่ไม่ซ้ำซ้อนกับของเดิม เพราะของเดิมที่เคยมีถูกกันไว้ว่าเป็นตัวเลขที่ถูกจำหน่ายว่า Quarantine ครบในห้วงเวลาแล้วที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ถ้าพ้นช่วงเวลานี้แล้วถือว่าบุคคลเหล่านี้ไม่มีอาการป่วย
สำหรับผู้ติดเชื้อทั้ง 541 คน บางส่วนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล บางส่วนจำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์ห่วงใยคนสาครที่ทางจังหวัดเตรียมไว้ทั้ง 7 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับได้ 2,000 เตียง ตอนนี้เปิดให้บริการได้แล้วราว 800 เตียง
ทั้งนี้ สถานการณ์ในภาพรวมคาดว่าจะพบผู้ติดเชื้ออีกจำนวนมากจากการตรวจเชิงรุก ควรจัดหาสถานที่ตั้งศูนย์ห่วงใยคนสาครเพิ่ม ควรต้องมีไว้รองรับมากกว่า 4,000 เตียงขึ้นไป จึงมีการขอความร่วมมือให้โรงงานต่างๆ ในพื้นที่จัดตั้ง “ศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร” โดยเป็นแนวคิดของทางจังหวัดและแรงงานจังหวัดที่จะนำเสนอคณะกรรมการ ให้โรงงานแต่ละโรงงานช่วยดูแลแรงงานของตัวเองให้อยู่ในที่พักที่ถูกสุขลักษณะ หากพบมีผู้ติดเชื้อ โรงงานต้องกันพื้นที่ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นหอพักของโรงงาน หรือเป็นพื้นที่ของโรงงานเอง ไว้เป็นสถานที่กักตัวดูแลแรงงานที่ป่วย โดยโรงงานทุกแห่งต้องจัดพื้นที่สำรองเตียงไว้รองรับผู้ป่วยให้ได้อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนแรงงานที่มีจริง เพื่อกันผู้ป่วยออกจากแรงงานที่ไม่ติดเชื้อให้ยังสามารถทำงานต่อไปได้
ส่วนตลาดทะเลไทยใน อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย วันนี้เปิดการขายเป็นวันแรก โดยช่วงแรกจะเป็นการเปิดขายปลาในแพปลาต่างๆ ภายในตลาด ตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น. พร้อมออกมาตรการเข้มผู้เข้ามาทำการซื้อขายปลาที่แพปลาตลาดทะเลไทย จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 1.ทุกคนต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว และผลตรวจจะต้องแสดงว่า “ไม่พบเชื้อ” เท่านั้นถึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังตลาดทะเลไทยได้ 2.ผู้เข้ามาทำการซื้อขายในตลาดต้องมีบัตรผ่านที่ออกโดยชมรมผู้ขายปลาสมุทรสาคร 3.ผู้ซื้อรายย่อยที่เข้ามาไม่ประจำ สามารถแสดงเอกสารผลการตรวจแทนได้ 4.ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกเชิญลงจากอาคารทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ตลาดทะเลไทยอีก
ขณะที่นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล รองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยตัวเลขความเสียหายในภาพรวมของธุรกิจจังหวัดสมุทรสาคร จากที่ประเมินไว้จากสถานการณ์ก่อนปีใหม่ ซึ่งมีการประกาศปิดพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 จะเสียหาย
ไม่น้อยกว่า 16,000 ล้านบาท แต่หลังจากผ่านปีใหม่ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว พบว่าสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ จ.สมุทรสาคร เพิ่มมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว หรืออาจจะมากกว่านั้น เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมในสมุทรสาครส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งต้องมีทั้งเรื่องของสินค้าสัตว์น้ำ การขนส่ง การเก็บรักษา และปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้ เชื่อว่าจะเกิดความเสียหายต่อวันไม่ต่ำกว่า 2,200 ล้านบาทอย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย