ทำเนียบรัฐบาล 4 ม.ค.-เปิดงานวันแรก นายกฯ เอาฤกษ์เอาชัยไหว้ศาลพระภูมิ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ เพื่อเป็นสิริมงคลปีใหม่ เผยเตรียมรับวัคซีนโควิดลอตแรก 1-2 เดือนนี้ ให้บุคลากรการแพทย์กลุ่มแรก ย้ำไม่อยากล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ประชาชนต้องช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปิดทำการช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 วันนี้ (4 ม.ค.) เป็นวันแรกของการทำงานปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตาศาลยาย รวมทั้งพระพรหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนไหว้สักการะพระพุทธรูปในห้องทำงาน เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยใช้พวงมาลัยดอกดาวเรืองยาว 9 ศอก พร้อมเครื่องเซ่นไหว้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในโอกาสทำงานวันแรกที่ทำเนียบรัฐบาล จึงมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ได้ทำงานอย่างต่อเนื่องและติดตามสถานการณ์โควิด -19 ทุกวัน รวมถึงหารือศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) เพื่อออกมาตรการต่าง ๆ รับมือกับโควิด อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลฝ่ายเดียว แต่ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จ เพราะโควิดเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก หากต่างคนต่างพูด แต่ไม่ทำ การแก้ปัญหาก็ทำไม่ได้
“ในช่วงปีใหม่ทุกคนมีความสุขตามสมควร ได้กลับไปอยู่กับครอบครัว บางคนได้ท่องเที่ยว แต่ขอให้ระมัดระวังตนเองอย่างที่สุด หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลจะเกิดปัญหา ส่วนการจัดหาวัคซีน คาดว่า 1-2 เดือน จะได้รับวัคซีน จำนวน 2 ล้านโดส เพื่อนำมาฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรก ที่เหลืออีก 6 ล้านโดส กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการ ขอให้ทุกคนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และ ศบค. ที่ทำงานตลอดวันหยุด สิ่งที่จะช่วยได้ คือ ความร่วมมือ และไม่ควรทำอะไรที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากทุกคนช่วยกัน จะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ ปีใหม่ปีนี้อยากให้ประชาชนช่วยดูแลซึ่งกันและกัน และหวังว่าปีนี้และปีหน้าจะเป็นปีแห่งความสำเร็จของการแก้ปัญหาทุกปัญหา ตนทำงานทุกเรื่อง แต่บางครั้งอาจไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด เพราะพูดแล้วจะทำให้เกิดแรงต่อต้าน จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง ขณะที่ด้านเศรษฐกิจ ยอมรับว่าได้รับผลกระทบแน่นอน รัฐบาลกำลังหามาตรการมาช่วยเหลืออยู่ รวมถึงการพักการชำระหนี้ที่กำลังพิจารณา เพราะมาตรการครั้งแรกที่ออกมายังดำเนินการไม่ครบถ้วน ดังนั้น มาตรฐานที่จะออกมาต่อจากนี้จึงต้องรัดกุมและรอบคอบ
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเป็นห่วงอาการป่วยของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และภรรยา ที่ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ได้ส่งดอกไม้ไปเยี่ยมให้กำลังใจบุคคลทั้งสองแล้ว ขอให้หายโดยเร็ว จะได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน เพราะทราบว่าขณะนี้จังหวัดใกล้เคียงและจังหวัดท่องเที่ยวพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่คิดล็อกดาวน์ประเทศ เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ทุกวันในช่วงเทศกาลปีใหม่
“จะประเมินอีกครั้งภายใน 14-15 วัน ว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งการทำงานที่บ้าน และการปิดโรงเรียน เว้นแต่บางพื้นที่ที่ต้องออกมาตรการรัดกุมมากกว่าเดิม เพราะรัฐบาลไม่อยากล็อกดาวน์ทั้งประเทศเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหา ขณะนี้ผมเป็นห่วง 28 จังหวัดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เพราะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ถ้าทุกคนช่วยกันอยู่แต่ในจังหวัดไม่ไปไหน จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่หากยังเดินทาง จะทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยาก ซึ่งได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปแก้ไขปัญหาของจังหวัดตนเองแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่พบมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศและติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นเชื้อโควิดชนิดหนึ่ง และจากการติดตามข้อมูลจากทั้งในและต่างประเทศ ทราบว่าเชื้อนี้แพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าเชื้อปกติ ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันป้องกัน ใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา
“สำหรับการแก้ปัญหาบ่อนการพนัน ที่เป็นส่วนหนึ่งของการแพร่ระบาดโควิด ผมมีวิธีการจัดการอยู่แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งการโยกย้ายเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ต้องหาหลักฐานมาเชื่อมโยงให้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงบ่ายวันนี้ จะเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส กระทรวงสาธารณสุข โดยจัดสถานที่ประชุมในลักษณะเว้นระยะห่าง ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.) จะเปลี่ยนแปลงสถานที่จากเดิมที่ใช้ตึกสันติไมตรี มาเป็นห้องประชุมชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 แทน.-สำนักข่าวไทย