กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. – ปลัดเกษตรฯ สั่งด่วนทุกหน่วยงาน เร่งช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันทางภาคใต้
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มอบหมายทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันทางภาคใต้อย่างเร่งด่วน จากที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายน – ปัจจุบัน 8 จังหวัด โดยสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ สตูลและยะลา ขณะนี้ยังคงต้องเร่งช่วยเกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา ตรัง และนราธิวาส
ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดให้ติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง ประสานข้อมูลกับหน่วยงานในสังกัดเพื่อประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์ความเสี่ยง และแจ้งเตือนไปยังเกษตรกรเพื่อเตรียมพร้อม รวมทั้งให้ติดตามประกาศเตือนภัย และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึบูรณาการทำงานของหน่วยงานในสังกัด และประสานการปฏิบัติงานร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในส่วนกลางและจังหวัดร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
นายทองเปลว กล่าวต่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งประเมินความเสียหายและความช่วยเหลือที่ควรส่งไปถึงเกษตรกรในพื้นที่อย่างรวดเร็วและทันสถานการณ์ อีกทั้งให้รายงานสถานการณ์และประเมินผลกระทบด้านการเกษตรมายังศูนย์ติดตามและช่วยเหลือด้านพิบัติภัยของกระทรวงเกษตรฯ ทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สำหรับการช่วยเหลือที่ดำเนินการแล้ว ประกอบด้วย กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 68 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 50 เครื่อง และเครื่องไฮโดรโฟวล์ 4 เครื่อง กรมปศุสัตว์จัดเตรียมเสบียงอาหารสัตว์ 5,567 ตัน ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ 3,000 ถุง และทีมสัตวแพทย์เคลื่อนที่ 119 หน่วย อพยพสัตว์ไปยังที่ปลอดภัย 874 ตัว แจกจ่ายเสบียงอาหารสัตว์ 17 ตัน โดยส่งไปยังนครศรีธรรมราช 8 ตันและสงขลา 9 ตัน สร้างเสริมสุขภาพสัตว์ 95 ตัว รักษาสัตว์ 63 ตัว และกรมประมงสนับสนุนเรือยาง 1 ลำ และรถยนต์บรรทุกหกล้อ 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ 21 นาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลา พัทลุง และ ปัตตานี รวมทั้งสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมรประกอบอาหารและแจกจ่ายอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 400 กล่อง
“แม้ว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนปกคลุมหัวเกาะสุมาตรา ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่าง ๆ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย