กทม. 3 ธ.ค. 63 – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำร่องดึงอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ 17 จังหวัด ช่วยลดปัญหาหมอกควันและไฟป่าเชิงรุก
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดประชุมเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ทสม. และกิจกรรมวัน ทสม. แห่งชาติ ประจำปี 2563 นำเสนอผลการดำเนินงานของเครือข่าย ทสม.ทั้ง 76 จังหวัด และ กทม. ตลอดจนแนวทางการพัฒนาบทบาทของเครือข่าย ทสม. โดยมีนาย จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับ ทสม. และเครือข่าย ทสม.ดาวรุ่ง ระดับประเทศ 8 รางวัล รางวัล ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ระดับจังหวัด อีก 108 รางวัล
โดยได้เน้นย้ำนโยบายการทำงานแบบ ยกกำลัง 2 บวก 4 ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ บวกที่ 1 คือ ยกย่องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การน้อมนำแนวทางพระราชดำริ มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน บวกที่ 2 คือ การมีส่วนร่วมของประชาชน บวกที่ 3 คือ การแสวงหาความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการเพิ่มศักยภาพการทำงานอยู่เสมอ และบวกที่ 4 คือ มีหลักธรรมาภิบาลในการทำงาน โดยเน้นย้ำการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ มุ่งหวังให้เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์
โดย ทสม. กว่า 247,000 คนทั่วประเทศ ดำเนินงานเชิงรุก ยกระดับการมีส่วนร่วม ขยายเครือข่าย ทสม. เยาวชนคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ สร้างกระบวนการ และกลไกการทำงานของเครือข่าย ทสม. ให้เข้มแข็ง ส่งเสริมศักยภาพบทบาทของทสม. ให้เป็นที่ประจักษ์ สนับสนุนภารกิจและกิจกรรมด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างหลากหลายโดยเฉพาะการ สืบสาน รักษา ต่อยอด น้อมนำแนวทางพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน ที่สำคัญ ปรับตัว ให้เป็น ทสม. ยุคใหม่ที่มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ ในการรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อม เฝ้าระวังเตือนภัยพิบัติ ทำหน้าที่แจ้งข่าวสาร สื่อสารนโยบายได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ฉับไว สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาไฟป่าและหมอกควัน
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พร้อมยกระดับการมีส่วนร่วมด้วยการขยายเครือข่าย ทสม. เยาวชนคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ ควบคู่กับส่งเสริมศักยภาพบทบาทของ ทสม. ให้เป็นเข้มแข็งโดยนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ป้องกันและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งปกป้องป่าไม้ ป้องกันหมอกควันและฝุ่นละออง มั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาในระดับพื้นที่อย่างได้ผล
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในครั้งนี้ยังได้มอบรางวัลชุมชนปลอดขยะ(Zero Waste) ประจำปี 2563 ที่ผ่านเข้ารอบที่ 1 จำนวน 98 รางวัล และรางวัลสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคสนับสนุนชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) ที่ผ่านเข้ารอบระดับประเทศ ปี 2563 อีกจำนวน 10 สำนักงาน โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของแนวคิด Zero Waste การจัดการขยะเหลือศูนย์ ส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ลดปริมาณขยะให้น้อยที่สุด ด้วยหลัก 3Rs ที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมนำมาเผยแพร่ให้แก่ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านโครงการชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) มากว่า 10 ปี ส่งผลให้ปัจจุบันมีชุมชนปลอดขยะต้นแบบทั่วประเทศ มากถึง 2,117 ชุมชน ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการช่วยขยายผลและสร้างความยั่งยืนด้านการส่งเสริมการจัดการขยะที่ต้นทางด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เน้นย้ำถึงการสร้างสังคมแห่งการรีไซเคิลและเศรษฐกิจหมุนเวียนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการตอบรับจากทุกภาคส่วน .-สำนักข่าวไทย