ธากา 24 พ.ย.- รัฐบาลบังกลาเทศแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในรัฐยะไข่ของเมียนมาร์และขอให้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนป้องกันไม่ให้ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมต้องหนีข้ามพรมแดนเข้ามาหาที่พักพิงในบังกลาเทศ
สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้บังกลาเทศเปิดพรมแดนรับชาวโรฮิงยาที่ต้องอพยพแล้ว 30,000 คนนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาร์หลั่งไหลเข้าไปปิดล้อมหลังเกิดเหตุคนร้ายบุกป้อมตำรวจหลายครั้งเมื่อเดือนก่อน บังกลาเทศเผยว่า เจ้าหน้าที่ชายแดนพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสกัดคลื่นผู้อพยพ แต่ชาวโรฮิงยาทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนชราได้ข้ามพรมแดนเข้ามาแล้วหลายพันคน และรอที่ด่านชายแดนอีกหลายพันคน กระทรวงต่างประเทศบังกลาเทศได้เรียกเอกอัครราชทูตเมียนมาร์เข้าพบเมื่อวานนี้เพื่อแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในรัฐยะไข่ที่ติดกับบังกลาเทศ และขอให้ทางการเมียนมาร์ดำเนินมาตรการเร่งด่วนอย่างเหมาะสม
ผู้อพยพหลายคนเผยว่า เดินเท้าเป็นเวลาหลายวันและใช้เรือซ่อมซอใกล้พังล่องเข้าบังกลาเทศเพื่อหลบเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนและหน่วยยามฝั่งที่เสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงล่าสุด.- สำนักข่าวไทย