กรุงเทพฯ 25 พ.ย.- “ธนาธร” หวั่นรัฐธรรมนูญใหม่ไม่เป็นประชาธิปไตยหากยึดฉบับรัฐบาล ชี้แต่งตั้ง ส.ส.ร. 50 คนสร้างปัญหาไม่จบ มองทางออกประเทศชนชั้นนำต้องถอยลงมาหาจุดตรงกลาง ฝ่ายนักเรียน นักศึกษา พร้อมพูดคุย
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงอุปสรรคสำคัญในการเดินทางการเมืองของประเทศไทย ว่า คำถามที่เป็นหัวใจสำคัญของการเมืองที่มันฉุดรั้งไม่ให้พวกเราเดินไปข้างหน้าในสังคมในฐานะประเทศ มันก็คือคำถามที่ว่า ใครคือเจ้าของอำนาจในประเทศนี้ ถ้าเราไม่ได้ข้อสรุปว่าใครคือเจ้าของอำนาจประเทศนี้มันเดินต่อไปไม่ได้ ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงมีความสำคัญเพราะเป็นข้อตกลงที่คน 60 กว่าล้านคนจะอยู่ร่วมกันว่าเราจะเล่นในเกมนี้ ทุกคนไม่หยิบปืนมายิงกัน ไม่แย่งอำนาจกัน แต่ทุกคนจะเล่นในเกมนี้ แพ้ชนะกันว่าไปตามกติกาโดยมีข้อตกลงตามรัฐธรรมนูญ
นายธนาธร กล่าวว่า ปัญหาคือตั้งแต่ 2540 เป็นต้นมาเราฉีกรัฐธรรมนูญแล้ว 2 ครั้ง เราไม่มีข้อตกลงในฐานะสังคมว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร เราจะเคารพกฎกติกาไหนร่วมกัน คนแพ้ไม่ต้องลงถนน คนแพ้ไม่ต้องไปกวักมือเรียกทหารออกมา ดังนั้นตราบใดที่คำถามนี้ไม่มีคำตอบ ไม่มีความสงบสุขในประเทศ ต้องจบลงที่ข้อตกลงที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ว่าเราจะเดินหน้าต่อด้วยข้อตกลงนี้ ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ใครแพ้ใครชนะก็ว่ากันไปรัฐธรรมนูญฉบับนี้และว่ากันไปตามกติกา
เมื่อถามว่าสภากำลังทำข้อตกลงใหม่แล้วซึ่งทางรัฐบาลมองว่าม็อบน่าจะหยุดเพื่อรอดูเวทีรัฐสภาในการร่างรัฐธรรมนูญ นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องรัฐสภาก็ว่ากันไป แต่ตนมองว่าเรื่องรัฐธรรมนูญมันมีปัญหาอยู่ คือร่างของรัฐบาลและร่างของฝ่ายค้านที่ผ่านเข้าไปเพียงแค่ 2 ร่าง มันมีข้อเสนอแก้ไขมาตรา 256 ให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ปัญหาที่มาของ ส.ส.ร.ต่างกันของฝ่ายค้าน 200 คนมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด ของฝ่ายรัฐบาล 150 คนมาจากการเลือกตั้ง อีก 50 มาจากการแต่งตั้ง ปัญหาของฝ่ายค้านถูกต้องตามหลักการ ถ้าเราเชื่อว่าอำนาจในประเทศนี้เป็นของประชาชน อำนาจที่จะเขียนกฎ กติกาก็ต้องเป็นของประชาชน
นายธนาธร กล่าวว่า แต่ปัญหาคือการมีผู้แทนของประชาชนมาเขียนรัฐธรรมนูญไม่เคยมีมาก่อนในสังคมไทย การยอมให้ร่างนี้ผ่านเท่ากับการตีเช็คเปล่าให้ฝ่ายค้าน และกลุ่มอภิสิทธิ์ชนและชนชั้นนำในสังคมไทย ไม่ยอมแน่นอนเพราะไม่รู้ว่าอะไรจะอยู่ในรัฐธรรมนูญ หากปล่อยให้เลือกฟรีโหวตมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาของรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร ส.ว. 250 จะมีหรือไม่ ดังนั้นจึงเป็นความหวาดกลัวของอภิสิทธิ์ชนว่าปล่อยให้เลือกตั้งทั้ง 200 คนมาเขียนรัฐธรรมนูญ หรือปล่อยให้ประชาชนมาเขียนรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะมันเป็นภัยต่อเขา
นายธนาธร กล่าวว่า ส่วนของรัฐบาล 50 คนที่มาจากการแต่งตั้งนั้นมีปัญหาว่า เลือกตั้งมา 150 คน ต่อให้ชนะครึ่งหนึ่งก็ผลักดันวาระไม่ได้เลย ที่สำคัญกฎกติกาการเลือกตั้งคือเขตจังหวัด และมี 1 คนเป็นพื้นฐาน ตามสัดส่วนประชากร แต่ประชาชนใช้สิทธิ์ใบเดียว ซึ่งทุกพรรคจะเฉลี่ยกันเข้ามา พอออกแบบกฎการเลือกตั้งแบบนี้แล้วมี 50 คนอยู่ในมือ โอกาสที่จะคุม ส.ส.ร.ได้เป็นไปได้ ต่อให้มันห่วยแต่มันจะมีความชอบธรรม ว่ามาจากกระบวนการในสภา ผ่าน 256 มาแล้วเลือก ส.ส.ร.กันเอง ร่างกันมาแล้วทำไมจะไม่รับ แต่เนื้อหามันอาจจะห่วยก็ได้เพราะการมี 50 คนและการออกแบบให้ 1 จังหวัด 1 คน 1 เสียง ให้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง จำนวน ส.ส.ร.แบ่งตามสัดส่วนประชากร แบบนี้มันจะทำให้เกิดปัญหา
“ผมกังวลมากจริง ๆ ถ้าใช้ร่างของรัฐบาลผ่านสภาในวาระ 2 และ 3 ผมเกรงว่าเราจะได้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และอำนาจไม่ได้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งหากไม่เปิดความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มันหาทางออกที่สันติไม่ได้ และหวังว่ามันจะไม่ต้องเดินไปถึงจุดที่บาดเจ็บล้มตายอีกรอบ” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า การที่คนรุ่นใหม่ขยับเพราะเสียงของเขาไม่ได้รับการรับฟัง มันจึงต้องทะลุไปเรื่อย ๆ ซึ่งน่ากลัวมาก แค่ฟังร่างของไอลอว์ที่มาจากคน 1 แสนคนคุณยังไม่ฟัง แต่ขยำทิ้ง เพราะเหตุผลว่าร่างไอลอว์ล้มเจ้า ซึ่งไม่มีเลย แต่มีการปั่น การสับร่างของไอลอว์จนเกินจริงเพื่อรักษาอำนาจ ดังนั้นเสียงของคน 1 แสนคนถูกทิ้งขยะไป คนที่จะฟังไม่ฟัง คนที่จะถอยลงมาหาจุดตรงกลางไม่ใช่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ซึ่งเขารออยู่แล้วเขาพร้อมพูดคุยอยู่แล้ว คนที่ไม่พร้อมพูดคุยคือชนชั้นนำ ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจว่าการจะหาทางออกจากความขัดแย้งครั้งนี้ผู้เล่นที่สำคัญมากก็คือกลุ่มชนชั้นนำทางจารีตที่เป็นคนกุมกุญแจไว้ว่าจะพาสังคมไปในทิศทางไหน กุญแจอยู่ที่ฝั่งเขาไม่ใช่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน.-สำนักข่าวไทย