นครสวรรค์ 15 พ.ย. – ชาวบ้านบริเวณชุมชนวัดพุทธ จ.นครสวรรค์ เดือด! ติดป้ายขับไล่รักษาการเจ้าอาวาส ตั้งข้อสงสัยเจ้าอาวาสใช้จ่ายเงินวัดไม่โปร่งใส จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดพุทธมงคลนิมิต บริเวณชุมชนวัดพุทธ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ หลังมีรายงานว่าที่วัดดังกล่าวมีการติดป้ายประกาศขับไล่รักษาการเจ้าอาวาสวัดไปทั่วบริเวณกำแพงวัด ทำให้ผู้คนที่ขับรถผ่านไปมาเกิดความสงสัยว่าทำไมวัดแห่งนี้ถึงติดป้ายขับไล่รักษาการเจ้าอาวาส พบว่าบริเวณกำแพงวัดมีป้ายไวนิลระบุข้อความประกาศอยู่ 2 ลักษณะ ติดกระจายอยู่รอบกำแพงวัด รวมทั้งหมด 6 ป้าย ป้ายแบบแรกมีข้อความระบุทำนองว่า “ชาววัดพุทธไม่เอารักษาการเจ้าอาวาส เป็นมา 2 ปี เคยทำความดีอะไรให้กับวัดบ้าง มีแต่เบิกเงินวัดถนัดนัก” ส่วนอีกป้ายหนึ่งมีข้อความระบุข้อความชัดเจนว่า “ชาววัดพุทธไม่ต้องการรักษาการเจ้าอาวาสวัดองค์นี้”
จากการตรวจสอบพบว่ารักษาการเจ้าอาวาสคือ พระครูโสภิตธรรมานุศาสน์ ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ได้รับคำตอบจากพระลูกวัดว่าพระครูโสภิตธรรมานุศาสน์กลับไปจำวัดอยู่วัดเดิมที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ หลายวันแล้วยังไม่กลับมา ส่วนป้ายขับไล่ที่ติดกระจายไว้รอบกำแพงวัดเป็นของกลุ่มชาวบ้านในชุมชนวัดพุทธ เกิดความสงสัยและไม่พอใจเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดที่ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่าจะไม่โปร่งใส
นายประสพสิน นาคกราย อายุ 61 ปี แกนนำชาวบ้านชุมชนวัดพุทธ และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัดพุทธมงคลนิมิต เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากความเคลือบแคลงสงสัยของชาวบ้านในชุมชน เรื่องการเบิกเงินวัดนำไปใช้จ่ายเกินจริง โดยมีมูลค่าสูงกว่า 2 ล้านบาท แต่เมื่อรวมตัวไปสอบถามกับรักษาการเจ้าอาวาสรูปนี้กลับไม่สามารถชี้แจงได้หมด ทำให้ชาวบ้านในชุมชนเกิดข้อสงสัยว่าน่าจะมีการทุจริตเงินวัดเกิดขึ้นหรือไม่ โดยพระครูโสภิตธรรมานุศาสน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษการเจ้าอาวาส แทนเจ้าอาวาสวัดองค์เก่าที่มรณภาพไปเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ไม่เคยอยู่ที่วัด จะกลับไปอยู่ที่วัดเดิมจนไม่มีการพัฒนาวัด มีแต่กลับมาแล้วใช้เงินวัด เบิกถอนไปใช้จ่ายตลอดครั้งละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท จากการตรวจสอบบัญชีวัดพบว่าเดิมมีเงินอยู่ในบัญชีชื่อวัดกว่า 7 ล้านบาท แต่ขณะนี้เหลืออยู่ในบัญชี 5 ล้านบาทเท่านั้น
นายประสพสินยังระบุด้วยว่า เท่าที่ได้รับคำชี้แจงจากรักษาการเจ้าอาวาสองค์นี้ มีการเบิกเงินนำไปใช้จัดงานมรณภาพให้กับพระเทพมงคลสุธี เจ้าอาวาสองค์ก่อน เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2561 เป็นเวลา 2 วัน เป็นเงินกว่า 1,200,000 บาท ส่วนที่เหลือมีการนำไปจัดซื้อชุดเก้าอี้ไม้หลุยส์จำนวน 35 ตัว เป็นเงินกว่า 300,000 บาท และซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำนวน 600,000 กว่าบาท และยังมีบัญชีรายจ่ายค่าจัดงานมรณภาพ แต่ไม่เคยได้รับการชี้แจงใดๆ หลักฐานบิลใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ไม่มี ชาวบ้านจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
ด้านนายกำจัด กองมาย อดีตไวยาวัจกรของวัดพุทธมงคลนิมิตร เปิดเผยว่า ตนเองลาออกจากการเป็นไวยาวัจกรของวัดพุทธมงคลนิมิตรตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร ยืนยันว่าทำหน้าที่อย่างถูกต้องมาโดยตลอด และอยากให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ เข้ามาตรวจสอบด้วยเช่นกัน .-สำนักข่าวไทย