กรุงเทพฯ 11 พ.ย.- กบง. เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน 150 เมกะวัตต์ คาดเปิดบิดดิ้งเฉพาะต้นทุนโรงไฟฟ้าได้ต้นปี 64 ปรับมติเดิมให้ ปตท.ลดราคาเอ็นจีวีรถสาธารณะตั้งแต่ กลางเดือนนี้ คาดลดลง 30 สต./กก. ด้าน กฟผ.ชงนำเข้าแอลเอ็นจี 5.5 ล้านตันปี 64 – 66
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ.แจ้งว่า ที่ประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง. ) ที่มีนายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ในวันนี้ ได้ .เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน โครงการนำร่องโดยใช้ ชีวมวลและก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย ≤ 25 %) มีเป้าหมาย150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นชีวมวล 75 เมกะวัตต์ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการ และ ก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์ ปริมาณ ไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครงการ โดยกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 36 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาฯ โดยเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ประมูลเฉพาะในส่วน CAPEX หรือเงินลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้า ส่วนราคาเชื้อเพลิงไม่แข่งขัน เพื่อให้ เกษตรกรได้ประโยชน์
สำหรับการแบ่งปันผลประโยชน์ อาทิ การให้หุ้นบุริมสิทธิ ร้อยละ 10 ให้กับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย) ซึ่งเป็นผู้ปลูกพืชพลังงานให้แก่โรงไฟฟ้า การให้ผลประโยชน์อื่น ๆ ให้โรงไฟฟ้าและชุมชนทำความตกลงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา เป็นต้น โดยจะต้องเสนอ กรอบนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ต่อไป และคาดจะเริ่มเปิดประมูลได้ในต้นปีหน้า
ที่ประชุม กบง. ยังเห็นชอบ ให้ปรับเปลี่ยนมติ กบง.เดิมในส่วนราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับ รถโดยสารสาธารณะ (ในเขต กทม./ปริมณฑล: รถแท็กซี่/ตุ๊กตุ๊ก/รถตู้ร่วม ขสมก. ในต่างจังหวัด: รถโดยสาร/มินิบัส/สองแถว ร่วม ขสมก. รถโดยสาร/รถตู้ร่วม บขส. และรถแท็กซี่) เพื่อลดผลกระทบจากโควิด-19 ที่ ให้ ปตท.ช่วยตรึงราคา จนถึงสิ้นปี 63 ที่ 13.62 บาท/กก. โดยปรับเปลี่ยนเป็น ให้ปรับลดราคาตามข้อเท็จจริง แต่ไม่เกิน 13.62 บาท/กก. ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่ 16 พ.ย. 63 ถึง 31 ธ.ค. 63 ซึ่งราคาเอ็นจีวีจากที่ สนพ.ติดตามสถานการณ์คาดน่าจะลดลงได้มาอยู่ที่ 13.30 บาท/กก. ตามราคาต้นทุนก๊าซฯที่สะท้อนราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน
นอกจากนี้ กบง.ยังรับทราบแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ในช่วงปี 2564 – 2572 ตามรูปแบบปรับปรุงแนวทางเดิมตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2560 และให้จัดทำคำสั่งคณะทำงานพิเศษพิจารณาแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 มีหน้าที่พิจารณารูปแบบการส่งเสริมการแข่งขัน ราคา LNG นำเข้า โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติที่เหมาะสม และแนวทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยส่งเสริม ให้เกิดการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม และ รับทราบแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas: LNG) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระหว่างปี พ.ศ. 2564 – 2566 เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าบางปะกง พระนครใต้ และวังน้อย มีปริมาณไม่เกิน 1.9, 1.8, 1.8 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ รวม 5.5 ล้านตัน โดยการนำเข้า LNG ของ กฟผ. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติที่ต้องการให้มี shipper หลายราย ทั้งนี้ กฟผ. จะต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดของ TPA และข้อกำหนดอื่นๆ -สำนักข่าวไทย