สำนักงาน กกต. 11 พ.ย.- กกต.หารือ คณะก้าวหน้า ทำตัวคล้ายพรรคการเมือง ช่วยผู้สมัครนายกฯ และสมาชิก อบจ.หาเสียง ให้สำนักงานเร่งรวบข้อมูลก่อนเสนอดำเนินการ หากทำผิดพ.ร.ป.พรรคการเมือง โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) วานนี้ ( 10 พ.ย.) กกต.ได้หยิบยกกรณีการเคลื่อนไหวของแกนนำคณะก้าวหน้า คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ในการช่วยผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเป็นนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขึ้นมาพูดคุย โดยเห็นว่า ลักษณะการเคลื่อนไหวมีข้อเท็จจริงหลายกรณีที่ทำเหมือนพรรคการเมือง ซึ่งทางสำนักงานได้ชี้แจงว่า ขณะนี้นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบในประเด็นนี้ และด้านกิจการพรรคการเมืองของสำนักงานกำลังเร่งรวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อกฎหมายต่าง ๆ เพื่อเสนอ กกต.พิจารณาดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการกับคำร้องลักษณะนี้ของ กกต. เมื่อสำนักงานมีการรวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อกฎหมายเสนอเข้าที่ประชุม กกต.แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับ กกต.ว่าจะมอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมืองใช้อำนาจตามมาตรา 7 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้คำชี้แจงหรือให้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมา เพื่อประกอบการพิจารณา หรือจะมอบหมายให้ด้านสืบสวนทำสำนวนตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 111 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดไว้ว่าผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดำเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใด ให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมือง โดยไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น 5 ปี.-สำนักข่าวไทย