ระยอง 10 พ.ย. – ปตท. คาดปีหน้าไทยนำเข้า SPOT LNG 4-5 แสนตัน จับตาใครได้นำเข้า พร้อมเร่งแผนฮับแอลเอ็นจีคาดสร้างรายได้ประเทศ 1.65 แสนล้านบาทใน 10 ปี
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปี 2564 คาดความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 4,356 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยแหล่งที่มา ปตท.ต้องรับซื้อตามสัญญาที่มีไว้ทั้งอ่าวไทย เมียนมาและก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี 5.2 ล้านตัน/ปี ทำให้เหลือ Room หรือช่องว่างต้องนำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจรหรือสปอตประมาณ 400,000-500,000 ตัน ซึ่งคงต้องดูว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะเห็นชอบให้ผู้ได้ใบอนุญาตนำเข้าหรือชิปเปอร์รายใดนำเข้า ซึ่งมีทั้ง ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กลุ่มบีกริม และกลุ่มกัลฟ์ ซึ่งต้องมองถึงต้นทุนนำเข้าที่เป็นผลดีต่อค่าไฟฟ้ามากที่สุด โดยปี 2563 ปตท.นำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจร 7 ลำ ประมาณ 500,000 ตัน ราคาเฉลี่ย 2.5 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู และเป็นส่วนหนึ่งทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าลดลง
สำหรับความต้องการใช้ก๊าซปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 44,003 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 8-10 จากผลของโควิด-19 ส่วนแผนส่งออกแอลเอ็นจี ไปอาเซียน/จีนตอนใต้ ได้ตั้งเป้าหมายใหม่จะส่งออกไตรมาส 2/2564 จากเดิมเป้าหมายเริ่มไตรมาส 3/2563 ซึ่งเป็นผลกระทบจากโควิด-19 ล่าสุดแอลเอ็นจีตลาดจรอยู่ที่ 7ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู
สำหรับการนำเข้าแอลเอ็นจีแล้วส่งออกเป็นแผนงานตามนโยบายรัฐที่ต้องการให้ไทยเป็นฮับแอลเอ็นจี ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ 165,000 ล้านบาทในช่วงเวลา 10 ปี จากปี 2563-2573 สร้างงาน 16,000 คน/ปี รวมทั้งเกิดธุรกิจ MICE เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาศึกษาดูงาน.-สำนักข่าวไทย