โควิด-19 ดับฝันเอกชนนำเข้าแอลเอ็นจีปีนี้

กรุงเทพฯ 20 ต.ค.- สนพ.เสนอ รมว.พลังงานดับฝันเอกชนนำเข้าแอลเอ็นจีปี 63 หลังโควิด-19 กระทบการใช้ก๊าซฯ หดตัว รอดูสถานการณ์ปีหน้า เสนอหลักเกณฑ์หากรายใดนำเข้าแล้วเกิดปัญหา Take or Pay ผู้นั้นต้องจ่าย ด้าน ครม.เห็นชอบแผนพีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 แต่ย้ำให้ทบทวนทั้งหมด รวมทั้ง โรงไฟฟ้าชุมชน เพราะความต้องการพลังงานลดลง 


นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ได้รายงานต่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงสถานการณ์ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศที่ลดลงจากผลกระทบโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจและสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ตลาดโลกที่ล่าสุดราคาสปอต หรือตลาดจรปรับขึ้นมาถึงระดับ 6.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หลังจากเข้าสู่ฤดูหนาวความต้องการของจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ปรับตัวสูงขึ้น ก็ส่งผลทำให้ราคาขยับขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างความต้องการใช้ที่ลดลงกับปริมาณซื้อตามสัญญาทั้งอ่าวไทย-เมียนมา และการนำเข้าแอลเอ็นจีสัญญาระยะยาว (LONG TERM) ของ บมจ.ปตท.แล้ว พบว่าปีนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องอนุมัติให้ผู้นำเข้ารายอื่น นอกเหนือ ปตท.นำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่มเติม แต่อย่างใด แม้ว่าจะมีผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้นำเข้า หรือชิปเปอร์ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แล้ว  ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  กลุ่มบีกริม กลุ่มกัลฟ์ และโรงไฟฟ้าหินกอง

” สนพ.ได้เสนอ รมว.พลังงานว่าการเปิดเสรีนำเข้าแอลเอ็นจี จะต้องดูถึงปัญหา TAKE OR PAY หรือภาระที่ไม่ใช้ก็ต้องจ่าย ที่ ปตท.ได้ทำไว้ในส่วนสัญญาระยะยาวและสัญญาอ่าวไทย-เมียนมา เพราะเป็นส่วนของความมั่นคงด้านพลังงาน โดยการอนุมัตินำเข้าจะต้องเป็น Room ในส่วนของนอกเหนือส่วนดังกล่าว และหากชิปเปอร์รายใดต้องการนำเข้าเกิน Room แล้วเกิดปัญหา TAKE OR PAY ผู้นำเข้ารายนั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเกณฑ์ทั้งหมด รมว.พลังงานได้ให้ กกพ.ตอบคำถามประเด็นปัญหาต่าง ๆ แล้วจะนำเข้า กบง.ก่อนประกาศหลักเกณฑ์การนำเข้าต่อไป ดังนั้น การอนุมัตินำเข้าก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ขอความต้องการใช้และทำอย่างไรไม่เกิดปัญหาไม่ใช้ก็ต้องจ่าย” นายวัฒนพงษ์ กล่าว


นายวัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้เห็นชอบแผนงานด้านพลังงานตามมติคณะกรรมการนโบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2563 วันที่ 19 มีนาคม 2563 เช่น แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev.1) อย่างไรก็ตาม ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตามข้อเสนอของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อเสนอต่อ กพช.ต่อไป โดยข้อเสนอ สศช.ได้ให้ทบทวนความต้องการใช้พลังงานที่เปลี่ยนแปลง หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระทบหนักต่อเศรษฐกิจและให้รวมแผนพลังงานหลักของประเทศให้เหลือแผนเดียว จากปัจจุบันมี 5 แผน คือ แผนไฟฟ้า,น้ำมัน,พลังงานทดแทน,แผนอนุรักษ์พลังาน,แผนก๊าซธรรมชาติ ซึ่งอาจเรียกเป็นแผนพลังงานแห่งชาติปรับปรุงทุก 5 ปี เรื่องนี้ทางกระทรวงพลังงานจะมีการจัดดำเนินการรับฟังความคิดเห็นในปีหน้า และประกาศเป็นแผนพลังงานฉบับใหม่ปี 2565 ซึ่งจะเป็นไปตามปีเดียวกับแผนของคณะกรรมการปฎิรูปพลังงาน

สำหรับแผนพลังงานสำคัญ 4 แผนที่ได้ปรับปรุงใหม่ ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.วันนี้ คือ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev.1) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 2561–2580 (AEDP 2018) แผนอนุรักษ์พลังงาน 2561-2580 (EEP 2018) และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ 2561-2580 (Gas Plan 2018) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและสถานการณ์ 

ส่วนนโยบายการส่งเสริมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยปรับปรุงรายละเอียดสำคัญให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบันและความเหมาะสมในอนาคต ซึ่งในส่วนของปริมาณรับซื้อ แม้ตามแผนไฟฟ้าจะมีกำลังผลิตรวม 1,933 เมกะวัตต์ แต่การดำเนินการรายละเอียดก็จะมีการทบทวนต่อไป ขณะเดียวกันเห็นชอบผลการศึกษาอัตราค่าไฟฟ้าและการจัดการระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้า และความเป็นไปได้ในการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับระบบขนส่งสาธารณะ (Mass Transit) โดยเป็นอัตราค่าไฟฟ้าแบบคงที่ตลอดทั้งวัน มีค่าเท่ากับอัตราค่าพลังงานไฟฟ้า ช่วงเวลา Off Peak ของผู้ใช้ไฟฟ้าตามโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปัจจุบันประเภท 2.2 กิจการขนาดเล็ก อัตราตามช่วงเวลา (Time Of Use (TOU) หรือเท่ากับ 2.6369 บาทต่อหน่วย (สำหรับแรงดันไฟฟ้าน้อยกว่า 22 kV) เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง