ปตท. เล็งขยายธุรกิจใหม่ “ยา-อีวี”

ระยอง​ 9พ.ย. – ปตท.เดินหน้าปรับพอร์ต​ลงทุน​ ขยายไปธุรกิจยา​  รถอีวี​ แต่ยังรักษาฐานปิโตรเลียมให้แข็งแกร่ง ทุ่มหมื่นล้านบาท ผุดตั้งโรงแยกก๊าซแห่งที่ 7 เริ่มก่อสร้างปีหน้า


นางอรวดี โพธิสาโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท. เปิดเผยว่า ปตท.เดินหน้าปรับพอร์ตการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่เติบโต สอดคล้องกับแนวโน้มระยะยาวโดยทำแผนปี 64 – 73 ​ทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ของธุรกิจปิโตรเลียมในปัจจุบันมุ่งเน้นการสร้างความร่วมถือเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น, การลงทุนใน New Energy​เช่นพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีด้านพลังงาน เช่น Storage/Grid Network, Smart Energy Platform และ EV Charging Station, การลงทุนใน New Business​ เพื่อหาโอกาสในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีแนวโน้มเติบโต หรือมีศักยภาพในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน,  ลงทุนเพื่อสังคม และลงทุนเพื่อสนับสนุนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม

สำหรับ New Business เช่น ธุรกิจ Life Scienceกำลังเจรจา  โรงงานผลิตยาในต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มโซนเอเชียก่อน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 64 หลังจากที่ในประเทศ ปตท.ได้มีความร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม(อภ.) จัดตั้งโรงงานผลิตยารักษาโรงมะเร็ง ส่วนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ขณะนี้กลุ่ม ปตท. อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ต้นแบบ เพื่อทำ Value chain จึงมองโอกาสต่อยอดสู่การร่วมทุนจัดตั้งโรงงานผลิตรถอีวีในอนาคตด้วย ซึ่งจะต้องศึกษาการลงทุนอย่างรอบครอบ 


ในขณะเดียวกัน​ ปตท.อยู่ระหว่างหาผู้รับเหมาก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่(แห่งที่ 7) ในประเทศ เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซฯ แห่งที่ 1 ที่ใช้งานมานานกว่า 30 ปีแล้ว  จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เริ่มการก่อสร้างในปี 2564 และก่อสร้างเสร็จในปี 2566 ซึ่งเป็นการก่อสร้างในพื้นที่ใหม่ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าคลังรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)มาบตาพุด ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกลง

ปัจจุบัน​ ปตท.มีโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1-3, 5 และ 6 ตั้งอยู่ที่ ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 4 ตั้งอยู่ที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช​ สามารถแยกก๊าซธรรมชาติสูงสุดได้จริง (Processing Capacity) ได้รวมประมาณ 2,870 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ทั้งนี้ ในปี 2564 ปตท. ตั้งเป้าใช้งบลงทุนมากกว่าระดับปกติ ที่มีการลงทุนแต่ละปีประมาณ 8 หมื่นล้านบาท หลังมีแผนลงทุนในธุรกิจใหม่และธุรกิจพลังงานใหม่เพิ่มขึ้น แต่จะเป็นระดับเท่าไหร่นั้น ยังต้องรอการพิจารณาจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท.ในเดือนธ.ค.นี้ อนุมัติก่อน


ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในช่วง 2 ปีข้างหน้า ประเมินว่า ยังเคลื่อนไหวระดับต่ำจากสถานการณ์โควิด-19 และคาดว่าจะเริ่มดีขึ้นในปี 65 ก่อนจะเข้าสู่สภาพเดิมหลังมีวัคซีนรักษาโควิด-19 ทำให้คาดว่าสถานการณ์ราคาจะกลับสู่ปกติในปี 66 ที่กว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

กฎหมายเปิดช่อง ริบรถพวกหัวร้อนบนถนนได้

จากคลิปรถเทสล่า ขับปาดหน้าบนทางด่วน ศาลสั่งจำคุก 1 เดือนคนขับ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่ที่สังคมต้องตระหนัก คือ ศาลยังสั่งริบรถเทสล่า มูลค่าเกือบ 2 ล้านคันนี้ด้วย วันนี้คนขับออกมาเปิดใจ พร้อมขอโทษคู่กรณี ขณะที่อัยการระบุ กฎหมายเปิดช่องให้ริบรถได้ เตือนผู้ขับขี่ใช้สติมากกว่าอารมณ์

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย