กรุงเทพฯ 3 พ.ย. – ตลาดน้ำมันติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ มาตรการล็อกดาวน์ในยุโรปกดดันราคา
หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บมจ.ปตท.และ บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าการเลือกตั้งสหรัฐที่จะเกิดขึ้นวันที่ 3 พฤศจิกายน นี้ กลับมาเป็นที่น่าจับตาอีกครั้ง จะมีผลต่อนโยบายด้านพลังงานสหรัฐ และคาดว่าจะส่งผลต่อราคาน้ำมัน และการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยอมรับว่าสหรัฐไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ทันก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปถึงรายละเอียดมาตรการในที่ประชุมระหว่างสภาคองเกรสและวุฒิสภามีผลต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นักลงทุนวิตกอุปสงค์น้ำมันอาจชะลอการฟื้นตัวจากมาตรการจำกัดการสัญจร (ล็อกดาวน์) ในยุโรป แม้หลายประเทศจะผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ อิตาลีอนุมัติมาตรการช่วยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มูลค่า 6.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการลดหย่อนภาษีและกองทุนการเลิกจ้างงาน (Lay-off funds) และเยอรมนีที่กำลังพิจารณาเพิ่มเพดานหนี้ปี 2564 จากเดิมที่ระดับ 96 พันล้านยูโร เป็นที่ระดับ 120 พันล้านยูโร เพื่อเตรียมออกมาตรการเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมทั้งการยืดระยะเวลามาตรการช่วยเหลือเดิม จากสิ้นสุดปี 2563 เป็นช่วงกลางปี 2564
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากกำลังการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบลิเบียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียยกเลิกภาวะเหตุสุดวิสัย ทำให้ลิเบียสามารถกลับมาดำเนินการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้ง ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงโดยเฉพาะทวีปยุโรป อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงหนุนจากการถล่มของพายุเฮอริเคนซีต้าในอ่าวเม็กซิโก ทำให้การขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว
บมจ.ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 34-39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 35-40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล.-สำนักข่าวไทย