ศาลสั่งจำคุกผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ช. ชักปืนขู่แท็กซี่

กรุงเทพฯ 20 ต.ค.-ศาลสั่งคุก 1 ปี ปรับ 31,000 บาท “พิเศษ” ผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ช. ชักปืนขู่แท็กซี่ เมตตารอลงอาญา 2 ปี หลังรับสารภาพ ขอโทษเยียวยาผู้เสียหาย


ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายพิเศษ หรือภูษิต นาคะพันธุ์ อายุ 54 ปี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นจำเลย ฐานข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง, 371, 392 และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ

อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 จำเลยได้พกพาอาวุธปืนโคลท์ รีวอลเวอร์ ขนาด.38 สเปเชียล เลขทะเบียน กท.2117198 พร้อมกระสุน แล้วหันปลายกระบอกปืนไปทางรถแท็กซี่รับจ้าง ที่มีนายพิพัฒน์ สีสะออน ผู้เสียหาย ขับตามมา พร้อมกับพูดว่า “ขับตามมาทำไม ให้ถอยรถออกไปวิ่งเส้นอื่น” อันเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายกระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยให้กลัวว่า จะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ โดยมีอาวุธ และทำให้เกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ จนผู้เสียหายจำยอมไม่ขับรถตามหลังรถจำเลยตามที่ถูกจำเลยข่มขู่


จำเลยให้การรับสารภาพ และได้รับการประกันตัว วันนี้จำเลยพร้อมทนายความเดินทางมาศาลฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว จำเลยยอมรับว่า มีอาวุธปืนไว้ครอบครอง เนื่องจากไว้ป้องกันตัว เพราะทำงานด้านการไต่สวนอาจเกิดอันตราย วันเกิดเหตุจำเลยขับรถมาถึงแยกศูนย์ราชการ พบผู้เสียหายขับช้า จำเลยจึงบีบแตร ผู้เสียหายหยุดรถและบีบแตร จำเลยหยิบอาวุธปืนถามผู้เสียหายว่าไล่ตามมาทำไม

ทั้งนี้ ระหว่างการพิจารณา ผู้เสียหายมาที่ศาล จำเลยได้ขอโทษผู้เสียหาย และผู้เสียหายไม่เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จำเลยได้มอบเงินให้ 2,000 บาท ผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดี จำเลยให้การรับสารภาพ และไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน มีภาระต้องดูแลบิดามารดา และเป็นข้าราชการระดับสูงซึ่งเคยทำคุณประโยชน์


พิพากษาจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ฐานข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ จำคุก 2 ปี ปรับ 60,000 บาท และฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง ปรับ 2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกฐานข่มขืนใจฯ 1 ปี ปรับ 30,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง ปรับ 1,000 บาท รวมจำคุก 1 ปี ปรับ 31,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และเยียวยาผู้เสียหายแล้ว จึงให้รอการลงโทษ 2 ปี พร้อมรายงานการคุมประพฤติทุก 4 เดือนใน 1 ปี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

ข่าวแนะนำ

สถานบันเทิงครบวงจร

“จิรายุ” ย้ำจำเป็นต้องทำ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

“จิรายุ” กางไทม์ไลน์ร่างกฎหมาย Entertainment Complex ถ้าใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ย้ำจำเป็นต้องทำ เพื่อควบคุมธุรกิจใต้ดิน​ ค้ามนุษย์ ไม่ให้เงินทองไหลออกนอกประเทศ ประเมินนักท่องเที่ยวปีนี้อาจแตะ 38 ล้านคน หลังลดลงช่วงโควิด

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนตะวันออก และใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนอง อ่าวไทยตอนล่าง คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ระทึก! ฝรั่งคลั่งจี้ภรรยา สกัดจับได้แล้ว

ระทึกกลางถนน พลเมืองดีพบเหตุชายต่างชาติคลั่ง ใช้ปืนจี้ภรรยาคนไทย ขับรถจาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ในรถมีเด็ก 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้แล้ว

นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง

นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต มีบ้านใกล้ที่ทำงาน ลดความเหนื่อยล้า มีแรงช่วยพัฒนาประเทศ เผยหลังเปิดจองพบประชาชนกว่า 12 ล้านคน เข้าจองสิทธิ์ในเว็บไซต์จนเว็บล่ม ขณะที่ชาวบ้านมารอเข้าคิวที่สถานีกลางบางซื่อ คึกคักตั้งแต่ตี 5