ขอนแก่น 14 ต.ค. – นักเรียนหลายคนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ยืนยัน ผอ.โรงเรียนฯ มีพฤติกรรมลวนลามนักเรียนจริง ขณะที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เร่งสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ช้าสุดไม่เกิน 15 วัน
ความคืบหน้ากรณีครูสอนวิชาภาษาไทย โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พานักเรียนหญิงชั้น ม.2 จำนวน 5 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ เพื่อให้ปากคำ หลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้อำนวยการโรงเรียนที่ลวนลามนักเรียนนั้น ตลอดทั้งวันนี้ (14 ต.ค.) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 2 สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง โดยในช่วงเช้าสอบปากคำคณะกรรมการสถานศึกษาและครู ส่วนภาคบ่ายสอบปากคำเพิ่มเติมครูและนักเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยผลการสอบสวน เพราะต้องรอสรุปในภาพรวมทั้งหมด และให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ให้ข้อมูล
ขณะที่นายเสรี ขามประไพ รักษาการผู้อำนวยการ สพป.ขอนแก่น เขต 2 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดการสอบสวนให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพราะอยู่ในความสนใจของสังคม ช้าสุดไม่เกิน 15 วัน โดยตนได้กำชับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันไม่ให้กระทบกับการเรียนการสอน เด็กนักเรียนมีความปลอดภัย สามารถเรียนได้ตามปกติ
ทีมข่าวสอบถามข้อมูลจากผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียนชั้น ม.1-ม.3 ต่างรู้สึกสบายใจที่ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ถูกย้ายออกไประหว่างการสอบสวน พร้อมยืนยันตรงกันว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ซึ่งเพิ่งย้ายมาเมื่อเดือนธันวาคม 2562 มีพฤติกรรมลวนลามจริง โดยเริ่มแสดงพฤติกรรมชัด หลังเปิดเทอมเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งโอบกอด ลูบไล้ตามตัวนักเรียนหญิง วัยต่ำสุดชั้น ป.6 จนถึง ม.3 โดยทำกับนักเรียนชั้น ม.2 มากที่สุด นอกจากพฤติกรรมโอบกอด ชอบถูกเนื้อต้องตัวแล้ว คำพูดยังส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ เช่น ถามว่ามีแฟนหรือยัง ถ้ายังไม่มี ผอ.จองนะ, มีเงินใช้หรือไม่ ถ้าไม่มีไปหา ผอ.ที่ห้องทำงาน เป็นต้น
นักเรียนให้ข้อมูลด้วยว่า มีบางคนรับเงินจาก ผอ. และเข้าไปในห้องทำงานของ ผอ. แต่ไม่ทราบว่าในห้องนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เบื้องต้นเท่าที่ทราบ ยังไม่ได้ยินข่าวถึงขั้นว่า ผอ.ล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนคนไหน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ที่ถูกแจ้งความ ได้รับคำยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ยืนยันไม่ได้มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวตามที่ถูกกล่าวหา ระบุครูภาษาไทยที่พานักเรียนแจ้งความนั้นตามกลั่นแกล้งสารพัดเรื่อง โดยจะรอดูความเคลื่อนไหวของครู หากเกิดความเสียหายร้ายแรง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายตามสิทธิของตัวเอง. – สำนักข่าวไทย