ภูมิภาค 14 ต.ค.-สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัด เริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทั้งเขตเมืองและบริเวณโดยรอบ ทั้งในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว สตูล และกระบี่
สระแก้วน้ำท่วมต้องอพยพคน-สิ่งของออก
ขณะนี้มวลน้ำที่ไหลมาจากเขตอำเภอวังน้ำเย็น อำเภอเขาฉกรรจ์ ไหลมีมาอย่างต่อเนื่องและไหลแรงทำให้เอ่อล้นในเขตพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว หลายจุด ล่าสุดเอ่อล้นขึ้นบนผิวถนนสุวรรณศร 33 สายสระแก้ว-กบินทร์บุรี แล้ว ซึ่งปลัดอำเภอเมืองสระแก้ว ประสานตำรวจทางหลวงสระแก้ว-ปราจีนบุรี อาสาสมัครกู้ภัยสว่างสระแก้ว ให้นำป้ายเตือนมาติดตั้งและคอยอำนวยความสะดวกให้ผู้สัญจรผ่านด้วยความระมัดระวัง
นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประสานนำเครื่องผลักดันน้ำจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 4 เครื่องมาติดตั้งที่คลองพระสะทึง บริเวณสะพานบ้านแก่งสีเสียดเพื่อเร่งผลักดันน้ำไปยังแม่น้ำคลองพระปรง จ.ปราจีนบุรี เป็นการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ให้ลดลง ขณะที่นายอำเภอเมืองสระแก้ว สั่งการให้ลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่หมู่ 7 บ้านใหม่ไพรวัลย์ พร้อมทั้งช่วยขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้มีค่าขึ้นที่สูงและอพยพคน สัตว์เลี้ยง ออกมาพักที่บ้านญาติในหมู่บ้านที่น้ำไม่ท่วม เบื้องต้นนำอาหาร น้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน และของใช้ในชีวิตประจำวัน มอบให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
น้ำท่วมสตูล คาดคลี่คลายพรุ่งนี้
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสตูล ระดับน้ำที่ท่วมในอำเภอควนโดน เริ่มลดปริมาณอย่างรวดเร็ว เพราะฝนหยุดตกเมื่อคืน ซึ่งน้ำจากอำเภอควนโดน ไหลไปตามลำคลองมำบัง ท่วมพื้นตำบลฉลุง ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล ขณะที่ฝนตกหนักน้ำท่วมที่ ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู ตั้งแต่เมื่อวาน ไหลไปตามลำคลองละงู เข้าท่วมพื้นที่ ตำบลเขาขาว ตำบลกำแพง ตำบลละงู สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในสตูล ล่าสุด พื้นที่ถูกน้ำท่วม 4 อำเภอ อำเภอละงู 5 ตำบล 25 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 756 คน ขณะนี้ฝนหยุดตก เจ้าหน้าที่คาดว่าพรุ่งนี้สถานการณ์น่าจะคลี่คลาย
น้ำจากเทือกเขาพนมเบญจาหลากท่วมสูง
เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย นำเรือยางเข้าช่วยเหลือชาวบ้านริมคลองใกล้สะพานคลองกระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จำนวน 8 คน ที่ติดอยู่ในบ้าน หลังเกิดน้ำป่าจากเทือกเขาพนมเบญจา หลากท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมคลอง ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด นอกจากนี้น้ำยังท่วมรถเก๋งเสียหาย 1 คัน
ขณะที่น้ำที่ไหลจากคลองกระบี่ใหญ่ไหลต่อไปยังคลองหินขวาง เอ่อล้นท่วม บริเวณชุมชนเมืองเก่า ถนนหน้าพลับพลา ริมคลองกระบี่ใหญ่กว่า 30 ครัวเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติมเมตร เจ้าหน้าที่กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ลอดภัย
สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจแก้ปัญหาอุทกภัยทั่วประเทศ
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมชลประทานจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาอุทกภัยขึ้นทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นศูนย์ติดตาม ประสานงานและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่นั้นๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำกรมชลฯ เร่งระบายน้ำจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะระหว่างนี้จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “นังกา” ขณะนี้รวมพื้นที่เกษตรเสียหายแล้วกว่า 2.5 แสนไร่ ย้ำเข้าสำรวจความเสียหายและฟื้นฟูทันทีที่น้ำลด.-สำนักข่าวไทย