อังกฤษ 5 ต.ค.- ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำโปรแกรมสัปดาห์ที่ 4 นับเป็นสัปดาห์มหาวิปโยค หลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล พร้อมใจกันแพ้แบบยับเยิน
เริ่มที่คู่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 6-1 เกมนี้ ปีศาจแดง ได้ประตูออกนำจาก จุดโทษของ บรูโน แฟร์นันเดส ในนาทีที่ 2 ส่วน สปอร์ ได้ประตูจาก ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล นาทีที่ 4, ซน ฮึง-มิน นาทีที่ 7, 37 แฮร์รี เคน นาทีที่ 31 และจุดโทษนาทีที่ 79 แซร์จ ออริเยร์ นาทีที่ 51 ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็แพ้เป็นนัดที่ 2 ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นแพ้คาบ้านทั้งสองนัดด้วย มี 3 แต้มเท่าเดิม อยู่อันดับ 16
นับเป็นความพ่ายแพ้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบ้านย่อยยับสุดในยุคสมัยของพรีเมียร์ลีก หลังจากที่เคยแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-6 เมื่อปี 2011
ปีศาจแดงสร้างผลงานยอดเยี่ยมที่สุดทีมหนึ่งในเกาะอังกฤษ พวกเขาคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะแชมป์ลีกสูงสุด นับรวมดิวิชั่น 1 ในอดีต ทำได้ถึง 20 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 12 สมัย แชมป์ลีกคัพ 5 สมัย แชมป์ฟุตบอลเอฟเอชาริตี้ ชิลด์ 21 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัย
ด้าน โอเล กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า ความผิดพลาดส่วนบุคคล มีส่วนสำคัญที่ทำให้ “ปีศาจแดง” แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-6 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และมองว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้มาจากการโดนใบแดงของ อองโตนีย์ มาร์กซิยาล ตนเองผิดหวังฟอร์มการเล่นแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่สไตล์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนลิเวอร์พูลแชมป์เก่า ออกไปเยือนแอสตัน วิลลา ทีมที่ดิ้นรนหนีตกชั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ปรากฏว่า “หงส์แดง” แพ้สุดช็อกหลังโดน แอสตัน วิลลา ถล่มยับ 7-2 ทำให้แพ้เป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้และสร้างสถิติไม่น่าจดจำ โดยเสียถึง 7 ประตูในนัดเดียวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1963 หรือ 57 ปีที่แล้ว ที่เคยโดน สเปอร์ส ถล่มไปถึง 7-2
นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังเป็นแชมป์เก่าทีมแรกที่เสียถึง 7 ประตูในฤดูกาลป้องกันแชมป์ ต่อจาก อาร์เซนอล ที่เคยแพ้ต่อ ซันเดอร์แลนด์ 1-7 ในเดือนกันยายน ปี 1953 หรือ 67 ปีที่แล้ว
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เปิดเผยหลังเกม “หงส์แดง” บุกไปพ่าย “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา 2-7 ที่สนามวิลล่า พาร์ค ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยคล็อปป์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ แต่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ และชื่นชมแอสตัน วิลลา คู่แข่ง ที่เล่นได้ดี ซึ่งเกมนี้ลูกทีมของเขาเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ก็ไม่ขอตำหนิใคร
ปิดท้ายด้วยการจารึกประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษบทใหม่ เนื่องจากถือเป็นครั้งแรกด้วยที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล เสียประตูให้คู่แข่งมากถึงครึ่งโหลในวันเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย