นนทบุรี 24 ก.ย. – พาณิชย์เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจ ส.ค. แม้ได้รับผลกระทบโควิด แต่ลดลงไม่มาก มั่นใจทั้งปีเกิน 70,000 ราย
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนสิงหาคม 2563 ว่า มียอดธุรกิจจัดตั้งใหม่ 5,538 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาลดลงร้อยละ 7 หรือลดลง 435 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 14,316 ล้านบาท แบ่งประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 548 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 284 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร 162 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 2563 จำนวน 1,337 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ 24 หรือลดลง 418 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 5,408 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แบ่งประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 115 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 65 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และธุรกิจบริการด้านอาหารในภัตตาคาร ร้านอาหาร 38 ราย คิดเป็น ร้อยละ 3 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-ส.ค.) จำนวน 44,542 ราย ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 12 หรือลดลง 6,112 ราย ขณะที่ยอดเลิกกิจการในช่วง 8 มียอดทั้งสิ้น 8,825 ราย ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 12 หรือลดลง 1,191 ราย ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนสิงหาคม 2563 จำนวน 770,278 ราย มูลค่าทุน 18.57 ล้านล้านบาท
นางโสรดา กล่าวว่า ตัวเลขจดทะเบียนตั้งใหม่ 8 เดือน ลดลงมาจากปัจจัยหลักผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้การดำเนินกิจการต่าง ๆ ไม่เต็มที่ แม้ว่าประเทศไทยจะดูแลได้เป็นอย่างดี และมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์กิจการต่าง ๆ มากขึ้น แต่การดำเนินธุรกิจยังอยู่ในประเทศ ทำให้การขยายกิจการยังไม่เต็มที่มากนัก และเชื่อว่าจากแนวทางการดูแลการแพร่ระบาดโควิดของไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีน่าจะทำให้นักลงทุนใหม่สนใจเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภาครัฐในช่วงปลายปีนี้จะส่งผลให้การจดทะเบียนรายเดือนหลังจากนี้น่าจะอยู่ที่ 5,000-5,500 รายขึ้นไป จึงเชื่อว่ายอดจดทะเบียนทั้งปีน่าจะเกินกว่า 65,000 -70,000 ราย.-สำนักข่าวไทย