โครงการ “คนละครึ่ง” ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุม ครม.

ทำเนียบรัฐบาล 22 ก.ย. – ความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการ “คนละครึ่ง” ล่าสุดในการประชุม ครม. วันนี้ เป็นเพียงการรับทราบโครงการ คาดว่าจะมีการพิจารณาอนุมัติอีกครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อย และโครงการ “คนละครึ่ง” มีเป้าหมายสำคัญคือ ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยได้รับประโยชน์ สามารถนำไปต่อยอดและก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบมากขึ้น

ด้านโฆษกรัฐบาลแถลงว่า ในการประชุมเป็นเพียงให้ ครม. รับทราบผลการประชุมของ ศบศ. เท่านั้น และยังไม่ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการ แต่ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเข้าใจว่าเป็นเรื่องมาตรการที่้ต้องการให้รัดกุม รวมถึงต้องการให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้าถึงโครงการมากที่สุด


ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เลื่อนเสนอมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศเข้าที่ประชุม ครม. ทั้งโครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปเป็นวันที่ 29 กันยายน เนื่องจากคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้ขอพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม ยืนยันว่าทั้ง 2 โครงการเริ่มดำเนินการตามกำหนด เพื่อเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนในวันที่ 1 ตุลาคม ส่วนประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม

สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง” จะเปิดให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 10 ล้านคน ลงทะเบียนในช่วงกลางเดือนหน้า เพื่อรับสิทธิเงินช่วยเหลือซื้อสินค้าอื่นๆ คาดว่าน่าจะเป็นรายวัน วันละไม่เกิน 100 บาท รวมไม่เกินคนละ 3,000 บาท ใช้ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” และรัฐบาลจะช่วยจ่ายเงินคนละครึ่ง

ส่วนร้านค้า โชห่วย หรือหาบเร่แผงลอย จะเปิดลงทะเบียนในช่วงต้นเดือนหน้า โดยต้องโหลดแอปฯ “ถุงเงิน” เพื่อสแกนรับเงินจากประชาชนที่ได้รับสิทธิ ซึ่งจะมีกระบวนการตรวจสอบคัดกรองอีกครั้ง และก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าร้านสะดวกซื้อหรือค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคลจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดจะต้องรอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้าพิจารณาอนุมัติอีกครั้ง


สำหรับอีกโครงการที่ยังไม่อนุมัติคือ โครงการ “เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เป้าหมายคือ 14 ล้านคนที่ถือบัตร ซึ่งจะเพิ่มวงเงินให้ 500 บาทต่อคนต่อเดือน จำนวน 3 เดือน คือ ตุลาคมถึงธันวาคม ใช้งบราว 21,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้จะต้องรอความชัดเจนอีกเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก