บช.น. 20 ก.ย. – ตำรวจย้ำเจาะสนามหลวงปักหมุดผิดกฎหมาย แจงรับหนังสือก่อนดำเนินตามขั้นตอนไม่ล่าช้า พร้อมเร่งเปิดการจราจรเร็วที่สุด
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเจาะพื้นผิวสนามหลวง เช้าวันนี้ (20 ก.ย.) เพื่อทำการปักหมุดคณะราษฎร์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายกฎหมาย 2 หน่วย คือ กรุงเทพมหานครที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่สนามหลวง และกรมศิลปากรรับผิดชอบโบราณสถาน หากเข้าข่ายความผิดชัดเจน ตัวแทนทั้ง 2 หน่วยงานจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยความผิดดังกล่าวจะมีโทษตามมาตรา 32 ข้อหาทำให้โบราณสถานเสียหาย เสื่อมค่า ไร้ประโยชน์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีภาพและเสียงชัดเจนว่าใครทำความผิดบ้าง หลังจากนี้จะเอาข้อมูลการกล่าวพาดพิงมาพิจารณาว่ามีความผิดในข้อหาใดบ้าง
สำหรับการเปิดการจราจรโดยรอบพื้นที่จะทำโดยเร็วที่สุด เพื่อกระทบผู้สัญจรบนท้องถนนน้อยที่สุด ด้านสิ่งกีดขวางจะพยายามรื้อให้เร็วที่สุด
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางไปรับหนังสือข้อร้องเรียนจากผู้ชุมนุม #19 กันยา ว่าส่วนตัวยังไม่ได้อ่าน จึงยังไม่ทราบรายละเอียดของหนังสือฉบับนี้ โดยกระบวนการหลังจากนี้ย้ำว่าจะดำเนินการขั้นตอนไม่ช้า โดยสิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำตอนนี้ คือ จะส่งน้อง ๆ กลับบ้านให้ปลอดภัยที่สุด
ขณะที่กรณีที่มีการนัดการชุมนุมอีกครั้งวันที่ 23 – 24 กันยายนที่รัฐสภานั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามและประเมินสถานการณ์ตามความเหมาะสมอีกครั้ง พร้อมย้ำว่าแม้จะมีการจัดกำลังการรักษาความปลอดภัยตามแผนชุมนุม 63 แต่ยืนยันไม่ใช่แผนจัดการกลุ่มชุมนุมที่มุ่งใช้กำลัง แต่เป็นการนำข้อผิดพลาดและบทเรียนเก่าๆ ในการชุมนุมสาธารณะมาปรับ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มีความสมบูรณ์ รัดกุม ได้มาตรฐานสากลมากขึ้น กฎเป็นไปตามกฎหมายที่มีการเปลี่ยนไป โดยการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลัง เพื่อดูแลรักษาความปลอดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ชุมนุมเช่นนี้เกิดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ทั้งใน กทม. และพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีการจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้วประมาณ 30 ราย ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นในการชุมนุม ก่อนวันที่ 19 กันยายน และวันที่ 19 กันยายนนี้จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง . – สำนักข่าวไทย