นายกฯ พร้อมรับฟังความเห็น นร.

สำนักงานสหประชาชาติ 31 ส.ค.- นายกฯ เผยจะเปิดให้ประชาชนประเมินผลงานภาครัฐ ยอมรับวิกฤติโควิด ทำให้รัฐบาลต้องปรับการทำงาน อาจมีเสียงคัดค้าน พร้อมรับฟังความเห็นนักเรียน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “วิถีคิดผู้นำในสถานการณ์วิกฤต ประสบการณ์จากสถานการณ์โควิด-19” ในงานสัมมนาวิถีคิดผู้นำสู่ความยั่งยืนภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ในโอกาสการฉลองครบรอบ 20 ปีการจัดตั้ง Global Compact ภายใต้สหประชาชาติ ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิคเป็นวิกฤติระดับโลกที่ไม่เคยประสบวิกฤตการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ ทำให้ต้องปรับตัว ทั้งในการใช้ชีวิตและดำเนินธุรกิจให้เป็นไปในรูปแบบ New Normal หรือ วิถีปกติใหม่ ดังนั้นผู้นำในทุกองค์กร รวมทั้งภาครัฐบาลจึงต้องพร้อมปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่โลกใหม่ด้วย ไม่ทำงานในรูปแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับรัฐบาลจะเร่งปรับปรุงวิธีการทำงานให้เป็นแบบ New Normal ตามแนวทางสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.การผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนเพื่อร่วมวางอนาคตของประเทศไทย จัดตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” เพื่อทำหน้าที่ ติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยา และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของประชาชนในระดับพื้นที่ เริ่มจากปัญหาที่มีความเดือดร้อนเร่งด่วน และทำให้การดำเนินงานเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วทันเหตุการณ์ 2.รัฐบาลจะเปิดให้มีการประเมินผลงานภาครัฐโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง ให้ทุกคนสามารถประเมินผลการทำงานของรัฐว่าได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนตามที่คาดหวังหรือไม่ เพื่อกำจัดสิ่งที่ทำแล้วไม่มีประโยชน์ต่อประชาชนออกไปให้ได้มากที่สุด ดังนั้น สิ่งที่ตนจะทำให้เกิดขึ้นเป็นอันดับต่อไป คือ สนับสนุนให้ประชาชนมีบทบาทในการประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลรับทราบโดยตรงได้ด้วย และ 3.การทำงานเชิงรุก กำหนดนโยบายสำคัญเร่งด่วน โดยตนจะติดตามโครงการสำคัญเร่งด่วนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นจริง และมีประสิทธิภาพสูงสุด


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ ทำให้รัฐบาลต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมหรือผลประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ ที่ผ่านมาทุกคนในรัฐบาลและทีมงานข้าราชการทุกกระทรวง จึงพยายามทำงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกคนให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด หรือการช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการเยียวยาต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่คัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยจากทุกช่องทางอย่างเคร่งครัด จนถึงการรักษาพยาบาลผู้ป่วย ตลอดจนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน จนทำให้ไทยได้รับคำชื่นชมจากสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกว่าสามารถบริหารจัดการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไทยรอดพ้นจากความท้าทายครั้งนี้ไปได้ โดยรัฐบาลต้องดึงศักยภาพของประเทศออกมาใช้ ระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน มาช่วยกันขับเคลื่อนการฟื้นฟูประเทศให้ดีกว่าเดิม ทุกภาคส่วนจะต้องรวมพลังกันเพื่อ “รวมไทยสร้างชาติ” ท่ามกลางวิกฤตินี้ “เราจะต้องรอด และวันหน้า เราต้องเข็มแข็งกว่าเดิม” พวกเราคนไทยจะฝ่าฟันไปด้วยกัน

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เวลานี้สิ่งที่ต้องมองไปข้างหน้า คือ การจัดสรรงบประมาณด้านสาธารณสุขอย่างเหมาะสม มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมทั่วถึง มีระบบอาสาสมัครสาธารณสุขท้องถิ่นที่เข้มแข็ง รวมถึงต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัส ต้องดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า การสนับสนุนเงิน ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ.เพื่อเป็นกลไกหลักในการกำหนดนโยบายร่วมกันระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด และวางแผนเพื่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน เพื่อเตรียมรับความปกติแบบใหม่ หรือ New Normal โดยเฉพาะการเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ การสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจฐานราก

“การพัฒนาของเราจะครอบคลุม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทำงานแบบ win-win ยึดมั่นในระบอบพหุภาคี และความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ เมื่อเราเริ่มทำงานในแบบใหม่ ๆ ก็อาจจะมีเสียงคัดค้าน หรือมีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น ผมพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกคน โดยเฉพาะเยาวชน เพราะผมเชื่อมั่นว่าเราต่างมีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้น ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนร่วมภารกิจ “รวมไทยสร้างชาติ” ไปพร้อม ๆ กัน ผมมั่นใจว่าวิกฤติโควิดครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศไทยของเรายิ่งแข็งแกร่ง มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่เราจะสามารถก้าวข้ามวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”