“ภูมิธรรม” ประกาศตั้ง kpi มีผลเลื่อนยศ-ปลด-ย้าย ทหาร-ตร.

เชียงราย 12 ม.ค.-“ภูมิธรรม” ประกาศตั้ง kpi มีผลเลื่อนยศ-ปลด-ย้าย ทหาร-ตร.-ฝ่ายปกครอง 14 จวังหวัดแก้ยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ภายหลังตรวจเยี่ยม การปฏิบัติหน้าที่ ในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ตามลำน้ำโขงที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านว่า จากการตรวจเยี่ยมวันนี้ ขอชื่นชมสมรรถภาพ ของหน่วย ยุทโธปกรณ์ มีความพร้อม ในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย


ในการประชุมผู้เกี่ยวข้องวันที่30 ม.ค.นี้จะเน้นย้ำนโยบายให้ชัดเจน ตั้งเป้าไว้ว่า 6 เดือนประเมินให้เห็นผล หากไม่ทำอะไร สิ่งที่กฎหมายตามแนวชายแดน ก็จะไม่หมดไปง่ายๆ เพราะปัจจุบันมีปัญหา จากนี้เราจะเพิ่มขั้นตอนปฏิบัติ ด้วยการซีลพื้นที่ เชื่อว่าน่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ทั้งระดับผู้กำกับ นายอำเภอ หากทำไม่ได้หรือแย่ลงต้องดูว่าจะทำอย่างไร ต้องดูมาตรการจังหวัด กระทรวงทหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพ ผู้บังคับบัญชาระดับต่างๆ ต้องลงมาดูแลต้องมีมาตรฐานที่ชัดเจน

“ประกาศให้ชัดก่อนเริ่มทำงานมีkpi เป็นตัวชี้วัดซึ่งทุกคน ทั้งตำรวจทหารฝ่ายปกครอง ต้องรู้ว่าปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต้องจัดการอย่างไรผมจะลงไปดูชายแดนอีกหลายพื้นที่ เพราะมีปัญหาค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซนเตอร์ ยาเสพติด เป็นภัยคุกคามเราต้องตื่นตัวหามาตรการแก้ปัญหา”นายภูมิธรรมกล่าวและว่า


ในส่วนของทหารต้องรับการประเมินkpiต้องยอมรับว่ากำลังทหารชั้นแรกไม่พอเพราะชายแดนยาวและมีช่องทางธรรมชาติจำนวนมากดังนั้นถึงได้นำระดับอำเภอมาเป็นพื้นที่ชั้นที่2ช่วยลดภาระเกิดปัญหาแต่ย้ำว่า kpi ต้องชัดเจนว่าภารกิจของใครทำอะไร ตั้งใจว่าจะเอานายอำเภอและผู้กำกับทำงานคู่กันไป และให้ผู้ว่าจังหวัดทำงานคู่กับผู้บังคับการจังหวัดเพื่อตกลงกันให้ชัด

นายภูมิธรรม ย้ำว่าอีกส่วนต้องหามาตรการความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน แม้ที่ผ่านมาพูดคุยกันม่ตลอดแต่ปัญหาไม่คลี่คลายอยากให้ทุกหน่วยงานคิดใหม่เพราะถ้าคิดแบบเดิมได้แบบเดิม แต่ยอมรับว่ามีหลายปัจจัยทำให้เกิดปัญหาก็ไม่ได้โทษใคร

เมื่อถามว่า Kpi มีผลต่อตำแหน่งและการโยกย้ายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กำลังคิดในรายละเอียด แต่จะให้ระดับผู้บังคับบัญชาหามาตรการชี้วัด kpi เพราะเขาจะรู้ดีสุดแค่ไหน อย่างไร ถึงเหมาะสม เช่น ทหาร จะมีแม่ทัพภาคในฐานะที่เป็น กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการสาตั้งต้นการแก้ไข ปัญหายาเสพติด (นยบส.) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะมีอำนาจคุมผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ


นายภูมิธรรม ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนเครื่องมือพิเศษให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังพิจารณาเรื่องโดรนลาดตระเวณ ไม่ต้องใช้ทหารไปเดินเสี่ยงถูกโจมตี อยากได้เครื่องมืออะไรขอให้ไปทำตามแผนมา เราไม่ขวางแต่ตนจะไขว้ให้ด้วย แต่ขออย่างเดียวของต้องมีคุณภาพ ราคาสมเหตุผล เช่น ซื้อเสื้อเกราะมา ถูกยิงแล้วตายอันนี้รับไม่ได้ ได้ย้ำกับผู้บังคับบัญชาไปแล้วสิ่งไหนใช้เทคโนโลยีมาแทน การใช้กำลังพลก็จะลดลง ซึ่งตนได้เน้นย้ำกับ ผบ.เหล่าทัพ รวมถึง ผบ.ตร. ไปแล้ว หากระวังหลักการที่ชัดเจน แล้วพูดคุยกันก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้

เมื่อถามว่า เราซีลชายแดนเป็นการแก้ปัญหาปลายทาง แล้วปัญหาต้นทางมีการหลอกคนจีนใช้ไทยเป็นทางผ่านไปส่งชายแดนดำเนินการอย่างไร

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยอมรับว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นการแก้ไขปัญหาปลายทาง แต่เป็นด่านที่สำคัญ หากซีลชายแดนได้ชัดเจน การเคลื่อนย้ายคน ก็ไม่ง่าย ต้องไปคิดรายละเอียด สวนต้นทาง ก็ต้องไปพูดคุยอีก กับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) อย่างกรณีดาราจีนซิงซิง เราไล่เช็คกล้องวงจรปิดก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่ได้มีอาการบังคับขู่เข็น จนกระทั้งเขาขึ้นรถ ก่อนไปข้ามเส้นทางธรรมชาติ ถือเป็นปัญหาพิเศษ ต้องมาวางรายละเอียดกันอีก แต่เรื่องนี้หากสามารถทำได้สำเร็จ ต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ส่วนรถที่รับส่งนั้นจะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ยังพูดแบบนั้นไม่ได้ ต้องมาตรวจสอบว่าส่วนตรงไหนเกี่ยวข้องบ้าง และแก้ไขปัญหา จากสิ่งที่มันเกิด สิ่งเหล่านี้ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แต่ต้องมีความปลอดภัยด้วย

เมื่อถามว่า ปัจจุบันก็กระทบอยู่แล้ว เพราะมีการยกเลิกคอนเสิร์ต อีกทั้งใกล้เทศกาลตรุษจีน คาดการว่าคนจะได้ไม่เดินทางมา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ซึ่งเรากำลังแก้ไขกันอยู่ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐาน ปัญหาและการเข้าใจที่แท้จริง และวันจันทร์นี้ รัฐมนตรีเกี่ยวข้องในการวางมาตรการดูแลความปลอดภัย นักท่องเที่ยว และด้านไซเบอร์ เช่น นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา หารือกับนายประเสริฐจันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดีอี เพื่อไปตรวจสอบ การปล่อยข่าว ในเชิงลบต่อประเทศไทย ในโซเชียลมีเดีย เพื่อสื่อสารไปยังประเทศจีน ในการทำความเข้าใจ คงต้องแก้ไขปัญหา เบื้องต้นไปก่อน.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลทำบุญวันอาสาฬหบูชา

ฉะเชิงเทรา 10 ก.ค.- พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ หลั่งไหลทำบุญตักบาตร เนื่องในวันอาสาฬหบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันอาสาฬบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาก่อนถึงวันเข้าพรรษาปี 2568 มีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญยืนต่อแถวยาวไปจนถึงศาลาริมแม่น้ำบางปะกงหลังพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร อย่างเนืองแน่น ก่อนสมาทานศีล 5 รับพรจากพระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา และถวายสังฆทาน ถวายไทยธรรม รับพรจากพระสงฆ์ จากนั้นอาวาสวัดโสธรวฯ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา นำพระภิกษุสามเณร เดินรับบาตรที่พุทธศาสนิกชนนำมาถวายเป็นพุทธบูชา บรรยากาศวันอาสาฬหบูชาในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดราชบูรณะ พระอารามหลวง พุทธศาสนิกชนต่างแต่งกายด้วยชุดขาวหรือชุดสุภาพ นำเทียนพรรษา ดอกไม้ ธูป เทียน และสิ่งของมาทำบุญตักบาตร ฟังธรรม และถวายสังฆทาน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย และเปี่ยมไปด้วยแรงศรัทธา -สำนักข่าวไทย

จับชายมุดท่อระบายน้ำ ลอบข้ามแดนกลับไทย

สระแก้ว 10 ก.ค.- ทหารคุมเข้มแนวชายแดนอรัญประเทศ ล่าสุดจับชายมุดท่อระบายน้ำ ลอบข้ามแดนกลับไทย อ้างป่วยโรคปอด แม่ชวนไปเป็นบัญชีม้าฝั่งปอยเปต ด้าน 15 แรงงานกัมพูชา อดอยาก ยอมเสี่ยงเดินเท้าเข้าสระแก้ว ชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ ทหารพราน ร่วมกันลาดตระเวนพื้นที่ล่อแหลมชายแดนสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมาย และการขนสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาจับกุมตัวนายอภิรักษ์ อายุ 40 ปี ขณะกำลังมุดท่อระบายน้ำข้างทางรถไฟ ห่างจากด่านพรมแดนบ้านคลองลึกประมาณ 200 เมตร เพื่อลักลอบข้ามพรมแดนกลับเข้าประเทศไทย โดยพบข้อมูลเบื้องหลังการจับกุม เผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อผู้ต้องหาอ้างว่าคนที่ชักชวนให้เขามาทำงานผิดกฎหมายนี้ คือ “แม่ของเขาเอง” นายอภิรักษ์ ให้การว่า ตนป่วยเป็นโรคปอด สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต่อมาแม่ของตนซึ่งเคยทำงานลักษณะนี้มาก่อน ชักชวนให้ไป “รับจ้างเปิดบัญชีและสแกนใบหน้า” ที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ถูกนำตัวข้ามแดนไปพักในห้องสังกะสี และสั่งให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร 1 บัญชี พร้อมคอยสแกนใบหน้าเป็นเวลา 4-5 วัน เมื่องานเสร็จ นายจ้างชาวไทยให้คนนำทางพามาส่งทิ้งไว้ที่แนวชายแดนและชี้ทางให้มุดท่อระบายน้ำกลับมาไทย จนถูกจับ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย และจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในข้อหาอื่น ๆ […]

ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม

10 ก.ค.- ลูกเจ้าของโรงเรียนคลั่งยา ชักปืนยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 คน โดยบริเวณข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 20 พบ 1 ศพ เป็นหญิง และบริเวณข้างวัดแห่งหนึ่ง แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พบอีก 1 ศพเป็นผู้ชาย เบื้องต้นจากการสอบถามเพื่อนบ้าน คาดผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งยา หลอนฝันว่าผู้ตายรายแรกที่เป็นหญิงทำคุณไสยใส่ จึงเดินไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กกหู ขณะที่กำลังซักผ้าเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นเดินออกมาหน้าวัด พบนายติ่ง จึงใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 2 ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนใกล้เคียงกับวัดดังกล่าว ถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ – สำนักข่าวไทย

หนึ่งเดียวในโลก! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

สุรินทร์ 10 ก.ค.- สุรินทร์จัดยิ่งใหญ่! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2568 ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ หลั่งไหลร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา ประจำปี 2568 บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพระสงฆ์ สามเณร 64 รูป นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้างแสนรู้ และช้างงายาว 64 เชือก โดยนำอัฒจันทร์เหล็กมาตั้งรอบอนุสาวรีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมายืนใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ช้างที่มีพระสงฆ์นั่งบนหลังจะเดินเข้าไปรับบาตร. – สำนักข่าวไทย