รัฐสภา 19 ส.ค.-อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเดินหน้าชน ส.ส. โทรเรียกเงินแลกโครงการ มีเทปอัดเสียงเป็นหลักฐาน แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ หวั่นถูกฟ้องกลับ ระบุถ้าได้ยินเสียง ทุกคนรู้จักหมด ยันไม่ล้มมวย
การประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาถึงกระแสข่าวที่มีอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ซึ่งเป็นคณะย่อยของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เรียกรับเงินจากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ แต่วันนี้(19 ส.ค.) คณะอนุกรรมาธิการฯดังกล่าว ไม่ได้ร่วมมาชี้แจงตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการฯ มีเพียงอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วยน.ส.ดวงมณี จั่นเพิ่ม ผู้อำนวยการกองแผนงานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มาชี้แจง ทำให้นายสิระ เจนจาคะ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ พูดกลางห้องประชุมว่า คนที่เป็น ส.ส.และเป็นอนุกรรมาธิการไม่เดินทางมา ต้องรับผิดชอบและมีมาตรการที่มากกว่าคนทั่วไปแบบคูณสอง
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ชี้แจงว่า การชี้แจงงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมซักถามเกี่ยวกับการขุดเจาะบ่อบาดาลที่มีราคาต่างจากเอกชน ต่อมาวันที่ 22 กรกฎาคมได้ชี้แจงอีกรอบหนึ่ง หลังจากนั้น วันที่ 4 สิงหาคม ช่วง 19.10 น.มีคนโทรศัพท์มาอ้างว่าเป็นกรรมาธิการฯ และพูดคุยกัน ของาน ขอเงินตามจำนวนที่เคยระบุ ต่อมาวันที่ 5 สิงหาคม ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ 5-6 คนเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2
“ระหว่างชี้แจงเห็นว่าไม่ใช่ประเด็นที่กรรมาธิการต้องการ ผมเลยลุกออกไปเข้าห้องน้ำ ไปเดินเล่นนอกห้อง เพราะไม่อยากฟัง เมื่อกลับมาก็ชี้แจงประเด็นเดิมคือเรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาล และอนุกรรมาธิการบางท่านเหมือนไม่เข้าใจ ทั้งที่ชี้แจงแล้วทั้งในห้องประชุมและนอกห้องประชุม ผมเห็นว่าการชี้แจงนั้นเปล่าประโยชน์ เลยตัดสินใจพูดความจริงตามที่เป็นข่าว เพื่อให้คณะอนุกรรมาธิการฯ รับทราบข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าว” นายศักดิ์ดา กล่าว
นายสิระได้ขอเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาขอเงินกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ได้ให้กับผู้บังคับบัญชาไปแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการพยายามซักถามอีกว่าทราบชื่อของบุคคลที่โทรศัพท์มาเรียกรับเงินแล้วใช่หรือไม่ และได้เปิดเผยชื่อดังกล่าวกับผู้บังคับบัญชาแล้วใช่หรือไม่ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อตนเองและถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกลับได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ได้ไปชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แล้วเมื่อหลายวันที่ผ่านมา
“ขณะนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ติดต่อเพื่อให้ผมไปชี้แจงแล้ว ยืนยันว่าสิ่งที่พูดกลางห้องประชุมอนุกรรมาธิการฯ เป็นความจริง ถ้าพูดเท็จคงไม่สมควรอยู่ในแผ่นดินนี้ ครอบครัวผมด้วย ถ้าผมเปิดเผยเบอร์และเปิดเทปให้ฟัง ทุกคนก็รู้จักหมด เรามีพยานหลักฐานมากกว่าที่หลายท่านเป็นห่วง ผมนั้น ชีวิตเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาสองครั้ง ก็ผ่านอะไรมาพอสมควร เรื่องพยานหลักฐานมีพอสมควร แต่ขออนุญาต เพราะเมืองไทยมีอะไรที่เราไม่คาดคิดได้ เมื่อวันนั้นผมพูดไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ ให้หน่วยงานเขาตรวจสอบดีกว่า ผมไม่ล้มมวยหรอกครับ ไม่ล้มมวยจริง ๆ ถ้าเราไปหกล้มกลางทาง เราจะเดือดร้อน หน่วยงานตรวจสอบ เขาก็เชื่อมั่นในตัวผม เชื่อว่าประธานอยากคัดคนไม่ดีออกไป ยืนยันว่ามันเกิดขึ้นจริง” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 10.20 น. นายสาธิต อุ๋ยตระกูล อนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ได้เข้ามารับฟังการพิจารณา โดยยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องตบทรัพย์ แต่ยอมรับว่าร้อนตัว เพราะอยู่ในอนุกรรมาธิการนี้ แต่ไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ อยากให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลชี้ตัวไปเลย ซึ่งนอกจากตนแล้ว ยังมีส.ส.ที่เป็นอนุกรรมาธิการซักถามกรมทรัพยากรน้ำบาดาลประเด็นค่าน้ำมันมากที่สุด ได้แก่ นายศิริพงษ์ รัศมี ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย และนางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ จากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ได้สั่งประชุมลับ เนื่องจากกังวลว่าผู้ที่มาชี้แจง จะได้รับผลกระทบจากการซักถามของคณะกรรมาธิการฯ.-สำนักข่าวไทย