กทม.17 ส.ค.- ผบช.น.รับ มีการยื่นศาลพิจารณาไต่สวนแกนนำผิดเงื่อนไขประกันจากร่วมชุมนุมเมื่อวานหรือไม่ ยัน ดำเนินคดีโดยชอบตามกฎหมาย ไม่มีคุกคามประชาชน
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน กองบัญาการตำรวจนครบาล รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายในการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ยอมรับว่า เบื้องต้นเป็นความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ส่วนจะมีความผิดอื่นด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างพิจารณาเป็นกรณีไป แต่ยังไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เช่นเดียวกับการตรวจสอบป้ายข้อความและเนื้อหาการปราศรัยบนเวที ที่สังคมกังวลในเรื่องของการพาดพิงหรือหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน ก็อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และถอดคำปราศรัยเช่นกัน
ส่วนการปรากฎตัวของนายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในพื้นที่การชุมนุมเมื่อวานนี้ ทราบว่า พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้รวบรวมหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณาไต่สวนว่าเข้าข่ายผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังยืนยันอีกว่า ขณะนี้ตำรวจขอศาลออกหมายจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม 15 คนเท่านั้น จากกรณีชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ส่วนที่มีแกนนำบางคนเดินทางไปแสดงตัวที่ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อคืน ยอมรับว่า แม้ตำรวจจะมีหมายจับแต่เมื่อพิจารณาแล้วเกรงจะเกิดเหตุความวุ่นวาย จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้น พร้อมยืนยันว่า การดำเนินคดีหรือออกหมายจับแกนนำผู้ชุมนุม เป็นไปโดยชอบตามกฎหมาย ไม่มีการสั่งการจากรัฐบาลหรือเป็นการคุกคามประชาชน
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับด้วยว่า มีการใช้เทคโนโลยีตัดสัญญาณอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ในพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจริง เนื่องจากเป็นพื้นที่ห้ามบินโดรน พร้อมยอมรับ ในอนาคตหากกลุ่มนี้จะชุมนุมอีก จำเป็นต้องพิจารณาตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ เพราะการขออนุญาตเป็นเพียงการแจ้งให้ทราบต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น พร้อมฝากเตือนสติกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะการรวมตัวกันของกลุ่มที่มีความคิดเห็นต่าง ให้ชุมนุมอยู่ในกรอบกฎหมาย ตำรวจมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้ากัน.-สำนักข่าวไทย