กทม.6 ส.ค.-คณะกรรมการฯชุด ผบ.ตร.ตั้งขึ้นไขคดี “บอส วรยุทธ” ขับรถชนตำรวจตายเมื่อปี 55 ให้กระจ่าง ประชุมชุดเล็กเน้นพิสูจน์คำให้การ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ที่ระบุความเร็วรถ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ประชุมนัดที่ 8 แต่เป็นการประชุมคณะกรรมการฯชุดเล็ก ซึ่งหารือต่อเนื่องจากเมื่อวาน (5 ส.ค.) จากคำให้การประกอบสำนวนคดีเกี่ยวกับเรื่องการคำนวณความเร็วรถยนต์ของพันตำรวจเอกธนสิทธิ์ แตงจั่น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งลงไปตรวจที่เกิดเหตุครั้งแรกและคำนวณความเร็วรถขณะเกิดเหตุสูงถึง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ว่ามีการคำนวณและให้การอย่างไรกับคณะพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องการเชิญนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐาน และร่วมตรวจสอบคำนวณความเร็วรถร่วมกับพันตำรวจโทธนสิทธิ์ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเชิญมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯวันนี้(6 ส.ค.)หรือไม่
พลตำรวจเอกศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า หลังชี้แจงกับคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.)ได้ชี้แจงความคืบหน้าต่างๆ ไปพอสมควร คาดว่าจะไม่มีการแถลงข่าวอีก จนกว่าจะสรุปผลตรวจสอบเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาไม่เกินวันที่ 13 สิงหาคม จากนั้นคาดว่าจะมีการแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง ยืนยันว่าเรื่องการแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดฯ กับนายวรยุทธ เหลือเพียงรอเอกสารยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ส่วนเรื่องการพิสูจน์ความเร็วรถ ยังต้องรอคำสั่งจากอัยการสูงสุดว่าจะสั่งการให้สอบสวนอย่างไรบ้าง ส่วนการเชิญพลตำรวจโทเพิ่มพูน ชิดชอบ ในฐานะผู้ลงนามคำสั่งไม่เห็นแย้งอัยการ จะมีการเชิญเข้าพบคณะกรรมการในเร็ววันนี้ ยืนยันว่าการตรวจสอบขณะนี้เป็นการลงลึกไปในรายละเอียดว่า การทำหน้าที่ของตำรวจที่เกี่ยวข้องมีข้อเท็จจริงอย่างไร บกพร่องในการทำหน้าที่หรือไม่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุด มีรายงานข่าวว่าวันนี้(6 ส.ค.) จะมีการเรียกประชุม เรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเข้าไปรับผิดชอบดูแล และสั่งการตามคำสั่งของอัยการสูงสุดในคดีดังกล่าว เพื่อทำคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป.-สำนักข่าวไทย