คาดทรัมป์จะไม่เล่นงานฮ่องกงเรื่องตรึงค่าเงินกับสหรัฐ

ฮ่องกง 25 ก.ค.- อดีตนักการทูตอเมริกันในฮ่องกงคาดว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่ได้เพิกถอนสถานภาพพิเศษของฮ่องกงไปแล้วคงไม่เล่นงานฮ่องกงเรื่องตรึงค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ เพราะจะไม่เป็นประโยชน์กับสหรัฐ


นายเคิร์ต ถง อดีตกงสุลใหญ่สหรัฐประจำฮ่องกงและมาเก๊ากล่าวในงานเสวนาออนไลน์ที่หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงจัดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การยกเลิกตรึงค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐจะบั่นทอนสถานภาพของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำหรับทำธุรกรรมที่มีความมั่นคงมากที่สุด และเป็นผลเสียต่อธุรกิจอเมริกันที่ได้เปรียบจากการที่ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสากล ข่าวลือเรื่องรัฐบาลสหรัฐจะเล่นงานฮ่องกงในเรื่องนี้เงียบหายไปแล้ว และรัฐบาลสหรัฐก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ที่สำคัญการหาทางบั่นทอนความเชื่อมั่นของสกุลเงินอื่นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในทางปฏิบัติและเสียค่าใช้จ่ายสูง 


ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมเพิกถอนสถานภาพพิเศษที่ฮ่องกงได้รับตามกฎหมายนโยบายฮ่องกงปี 2535 เพื่อตอบโต้ที่จีนใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติกับฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน เขากล่าวในเวลานั้นว่า สหรัฐจะปฏิบัติต่อฮ่องกงเช่นเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ นั่นคือไม่มีสิทธิพิเศษ ไม่มีการปฏิบัติพิเศษทางเศรษฐกิจ และไม่มีการส่งออกเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว แต่ไม่ได้พูดเรื่องจำกัดไม่ให้ธนาคารฮ่องกงเข้าถึงระบบการชำระเงินด้วยดอลลาร์สหรัฐเหมือนที่ใช้ลงโทษจีน ฮ่องกงตรึงค่าเงินกับดอลลาร์สหรัฐมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2526 เป็นช่วงที่ตลาดเกิดความไม่มั่นใจในขณะที่รัฐบาลจีนและอังกฤษกำลังเจรจาเงื่อนไขการส่งมอบฮ่องกงในปี 2540 การตรึงดังกล่าวช่วยให้ฮ่องกงรักษาความเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งหนึ่งของโลกได้ต่อไป

รัฐบาลประเทศต่าง ๆ รวมทั้งรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกงสามารถเลือกได้ว่าจะตรึงค่าเงินกับสกุลใดและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่เท่าใด แต่สหรัฐมีสิทธิห้ามธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารกลางประเทศนั้น ๆ ทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ น้ำค้างแข็งต่อเนื่อง อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ

ภาคเหนือหนาวต่อเนื่อง บริเวณกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งขาวโพลน เป็นวันที่ 10 อุณหภูมิยอดหญ้า ติดลบ 0.4 องศาฯ

U.S. President Joe Biden and Trump shaking hands during meeting in Oval Office on November 13, 2024

“ทรัมป์” เตรียมสาบานตนรับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐวันนี้

วอชิงตัน 20 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกอบกิจกรรมหลายอย่างเมื่อวานนี้ ก่อนเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นายทรัมป์เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ และเมื่อวานนี้เขาและนายเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ได้เดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลาและเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นนายทรัมป์ได้ไปเข้าร่วมงานปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่แคปิตอลวันอารีนา ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มในกรุงวอชิงตัน นับเป็นการปราศรัยใหญ่ในกรุงวอชิงตันครั้งแรกของทรัมป์ หลังจากที่เคยปราศรัยเรียกร้องผู้สนับสนุนให้ยกขบวนไปอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 คัดค้านที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 สนามกีฬาแห่งนี้ยังจะเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมงานพิธีสาบานตนของทรัมป์ผ่านการถ่ายทอดสดทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลกแผ่ปกคลุมสหรัฐ ทำให้ต้องย้ายการจัดพิธีสาบานตนจากด้านหน้าอาคารรัฐสภาเข้าไปจัดด้านใน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ชาวอเมริกันจากทั่วประเทศเดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้วเพื่อร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีสาบานตนของทรัมป์ หลายคนผิดหวังที่พลาดโอกาสได้ร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย นายทรัมป์ วัย 78 ปี จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย ตามด้วยการกล่าวปราศรัย ซึ่งจะเป็นการประกาศแนวทางสำหรับการบริหารงานเป็นเวลา 4 ปีหลังจากนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ฝุ่นPM

เตือนเฝ้าระวังค่าฝุ่น PM2.5 สูงตลอดสัปดาห์นี้

กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนแนวโน้มค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 22-25 ม.ค. ทั้งสาเหตุจากอากาศนิ่งและจมตัว อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่ รวมถึงหมอกควันข้ามแดน