ร้องแย้งไม่ควรเอาผิดนายกฯ-ศบค. กรณีอุปทูตซูดาน-ทหารอียิปต์

สำนักงาน ป.ป.ช.  17 ก.ค.-   “สนธิญา”  ร้องแย้ง “ศรีสุวรรณ” ไม่ควรเอาผิด นายกฯ และ ศบค. กรณีอุปทูตซูดาน-ทหารอียิปต์  หวั่นปั่นทอนกำลังใจ    


นายสนธิญา  สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นคำร้องแย้ง กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มายื่นคำร้อง เพื่อเอาผิดนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. และคณะ  กรณีอุปทูตซูดานและทหารอียิปต์ 

นายสนธิญา กล่าวว่า  การทำงานของ ศบค.จะมีหน่วยงาน และระดับปลัดกระทรวงที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานรับผิดชอบอยู่เป็นส่วนๆ ไป ในกรณีการเดินทางที่จะเข้ามาในประเทศไทย ทุกๆ ประเทศจะต้องแจ้งให้ทราบว่า จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้อุปทูตซูดานและทหารอียิปต์ได้รับทราบ และเมื่อมาถึงสนามบินก็จะมีหน่วยงานตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบคัดกรองที่สนามบินก็ทำให้ทราบว่า มีเชื้อโควิด-19 จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศไทย  ฉะนั้นในประเด็นของคำว่าหละหลวมจึงเข้าใจว่าไม่สามารถที่จะใช้กับการปฏิบัติหน้าที่ของ ศบค. และเชื่อว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามที่ ศบค.ได้กำหนด 


“เราจะเห็นได้ว่าการเข้าประเทศไทยก็ปฏิบัติกันอย่างเข้มข้น กรณีของทูตจะมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เป็นไปตามกฎหมายและกฎบัตรสหประชาชาชาติ ดังนั้น การปฏิบัติก็ต้องมีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นตัวควบคุม รวมทั้ง กรณีของทหารก็มีพันธะผูกพันระหว่างหน่วยงานของกลาโหม การปฏิบัติของ ศบค. จึงเป็นไปตามคำสั่งและ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ฉะนั้นที่นายศรีสุวรรณ ได้ยื่นต่อป.ป.ช. ผมเห็นต่าง จึงขอนำความเห็นมาร้องแย้ง”   นายสนธิญา กล่าว

ส่วนกรณีที่ประชาชนเห็นว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.  ควรรับผิดชอบ  นายสนธิญา กล่าวว่า  จะให้รับผิดชอบอย่างไร    ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ก็ได้ขอโทษประชาชนไปแล้ว โดยเฉพาะโฆษก ศบค. และยังยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้จะนำไปแก้ไข และไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป ดังนั้น ควรที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดีกว่าไปฟ้องร้อง ส่วนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น เชื่อว่าในอีก 2-3 วันข้างหน้า น่าจะมีความชัดเจนว่า จะช่วยเหลือประชาชนที่ จ.ระยอง อย่างไร ซึ่งเราก็ต้องเข้มงวดในเรื่องการป้องกันต่อไป    .- สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก

ตรวจอาคารแผ่นดินไหว

ตรวจอาคารใน กทม.แล้วกว่าหมื่นแห่ง พบสีแดง 2 แห่ง ยังห้ามเข้าใช้ จากเหตุแผ่นดินไหว

หน่วยงานร่วมแถลงสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินจากเหตุแผ่นดินไหว เผยตรวจสอบอาคารแล้วกว่า 10,000 แห่ง เป็นสีเขียว พบ 2 แห่ง ยังมีสีแดงไม่ให้เข้าใช้อาคาร แจง 4 บริษัทประกันภัยตึก สตง.ถล่ม ทำประกันภัยต่อกับบริษัทประกันต่างประเทศ

อพยพออกจากตึก

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ แจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สั่งคนออกจากตึกทันที หลังเกิดเสียงดัง-รอยร้าว-เศษปูนร่วง ล่าสุดแจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว